สื่อเบลเยียมสับสน ตีข่าวเจ้าหน้าที่จับกุมคนร้ายที่เป็นชายสวมหมวกได้ สุดท้ายกลับไม่ใช่ พากันแก้ข่าวหลังมีรายงานว่าการจับกุมที่อันเดอร์เลชต์ไม่น่าจะเกี่ยวกับคนร้ายที่เป็นชายสวมหมวก
ก่อนหน้านี้ บรรดาสื่อท้องถิ่นของเบลเยียมพากันรายงานว่า นาจิม ลาคราอุย ผู้ต้องสงสัยรายที่ 3 ที่เห็นในภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นชายชุดขาวสวมหมวก ได้ถูกจับกุมตัวแล้วที่ชานเมืองอันเดอร์เลชต์ หลังทางการเบลเยียมใช้ปฏิบัติการไล่ล่าอย่างหนัก
อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมามีรายงานว่า การจับกุมที่อันเดอร์เลชต์ ตำรวจได้คุมตัวบุคคลอื่นและไม่น่าจะเกี่ยวกับผู้ก่อการร้ายที่เป็นชายสวมหมวก
ขณะเดียวกัน สถานีโทรทัศน์อาร์ทีบีเอฟ ของเบลเยียม ระบุว่า หนึ่งในพี่น้องเอล-บาคราอุย ต้องสงสัยว่าไปก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่สถานีรถไฟใต้ดินมาลบีค ไม่ใช่ที่สนามบินตามที่มีข่าวก่อนหน้านี้
อาร์ทีบีเอฟรายงานว่า อิบราฮิม เอล-บาคราอุย นั้นต้องสงสัยว่าเป็นผู้ระเบิดฆ่าตัวตายที่สนามบิน ส่วนอีกคนคือ คาลิด เอล-บาคราอุย นั้นระเบิดฆ่าตัวตายที่สถานีรถไฟใต้ดิน
หากรายงานนี้ได้รับการยืนยันว่าเป็นจริง ก็จะทำให้เรื่องราวซับซ้อนยิ่งขึ้น ถ้าหนึ่งในผู้ต้องสงสัยชุดดำที่สนามบินคือ อิบราฮิม ส่วนชายชุดขาวอีกคนคือ นาจิม จะทำให้เกิดคำถามว่ามือระเบิดชุดดำอีกคนที่ถูกจับภาพไว้ได้ในกล้องวงจรปิดนั้นคือใคร ใช่คนร้ายรายที่ 4 หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้มีรายงานว่าชายชุดดำ 2 คนนั้นคือพี่น้องเอล-บาคราอุย
สื่อเบลเยียมมองว่า อาจจะเป็นไปได้ที่ชายชุดดำปริศนาคนนั้นคือคาลิด ตามที่รายงานไว้ก่อนหน้านี้ โดยได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการระเบิดที่สนามบินก่อนตอนเวลาประมาณ 08.00 น. จากนั้นเขาก็เดินทางไปยังสถานีรถไฟใต้ดินมาลบีคแล้วก่อเหตุร้ายที่นั่นตอนเวลา 09.11 น.
ข้อมูลจากการแถลงข่าวในวันพุธของอัยการเบลเยียม เฟรเดอริค ฟาน ลิว มีการยืนยันว่า อิบราฮิม เอล-บาคราอุย คือผู้จุดระเบิดฆ่าตัวตายครั้งแรกที่สนามบินซาเวนเทม ส่วนการระเบิดครั้งที่สองในสนามบินนั้นยังไม่สามารถระบุได้ว่ามือระเบิดคือใคร
สำหรับเหตุระเบิดที่สถานีรถไฟใต้ดินมาลบีค มือระเบิดฆ่าตัวตายคือ คาลิด เอล-บาคราอุย ส่วนผู้ต้องสงสัยรายที่สาม ซึ่งสวมชุดขาวใส่หมวกคือ นาจิม ลาคราอุย ทางการเบลเยียมกำลังไล่ล่าอยู่ขณะนี้
แมกกี เดอ บลอค รัฐมนตรีสาธารณสุขเบลเยียม ระบุในวันพุธ (23 มี.ค.) ผ่านสถานีวิทยุวีอาร์ที ว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดทั้งสองจุดอยู่ที่ 31 ราย แบ่งเป็นที่สถานีรถไฟใต้ดิน 20 ราย ส่วนที่สนามบิน 11 ราย แต่ตัวเลขน่าจะเพิ่มขึ้นอีก ขณะที่สำนักข่าวเอพีรายงานว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตรวมแล้วอยู่ที่ 34 ราย