xs
xsm
sm
md
lg

รัสเซียต้องการคำตอบจากสหรัฐฯ “คดีอดีตที่ปรึกษาคนสำคัญของปูติน ดับปริศนากลางดีซี” โฆษกเครมลินสงสัยจัด!! มะกันไม่ยอมให้ข้อมูลสำคัญ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ - โฆษกเครมลิน ดมิตรี เพชคอฟ (Dmitry Peskov) แถลงล่าสุด ยืนยัน รัสเซียต้องการคำตอบจากสหรัฐฯ ในคดีการเสียชีวิตของ มิกาอิล เลซิน (Mikhail Lesin) วัย 57 ปี อดีตที่ปรึกษาประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ท่ามกลางข่าวลือ ทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดถึงเหตุการณ์จบชีวิต ตั้งแต่ทะเลาะกับคู่หมั้น ไปจนถึงถูก FBI จัดฉากหวังใช้เป็นพยานหาข้อมูลใกล้ตัวปูติน

มิกาอิล เลซิน (Mikhail Lesin) วัย 57 ปี อดีตที่ปรึกษาประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ถูกพบเป็นศพเสียชีวิตภายในห้องพักในโรงแรมสุดหรู ดูปองต์ เซอร์เคิล (Dupont Circle) ในต้นเดือนพฤศจิกายนก่อนหน้านี้ ล่าสุด ผลการชันสูตรออกมาในวันพฤหัสบดี (10 มี.ค) พบว่า เลซินถูกของแข็งกระแทกอย่างแรงที่ศีรษะจนเป็นเหตุเสียชีวิต แต่ทางกระทรวงต่างประเทศรัสเซียออกแถลงการณ์ทันควันในวันเดียวกัน ว่า สหรัฐฯไม่ได้ให้ข้อมูลความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของเลซิน ซึ่งในเบื้องต้นยังไม่มีการระบุว่า เป็นการฆาตกรรมหรือไม่

NBC NEWS รายงานในวันศุกร์ (11 มี.ค) ว่า ในแถลงการณ์ร่วมระหว่าง สำนักงานแพทย์นิติเวช (Office of the Chief Medical Examiner) และสำนักงานตำรวจนครบาลกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. รายงานผลการชันสูตรศพของ มิกาอิล เลซิน (Mikhail Lesin) วัย 57 ปี อดีตที่ปรึกษาประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ว่า เป็นการเสียชีวิตเนื่องมาจากศีรษะถูกของแข็งที่ไม่มีคมกระทบอย่างแรง แต่กระนั้นสภาพการเสียชีวิตของอดีตที่ปรึกษาปูตินในห้องพักส่วนตัวโรงแรมสุดหรู ปองต์ เซอร์เคิล (Dupont Circle) เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน2015 ที่ผ่านมา ยังไม่ได้รับการเปิดเผย

นอกจากนี้ ในรายงานยังระบุว่า พบร่องรอยการบาดเจ็บที่เกิดจากของแข็งที่ไม่มีคมกระแทกอย่างแรงในบริเวณส่วนลำคอ ลำตัว แขน และขา อีกด้วย

ซึ่งผลการชันสูตรที่ออกมาล่าสุดนี้ขัดแย้งกับการรายงานของสื่อรัสเซียก่อนหน้านี้ที่อ้างว่า เลซิน นั้นเสียชีวิตเนื่องมาจากโรคหัวใจกำเริบ

ทั้งนี้ พบว่า เลซินนอกจากเป็นอดีตที่ปรึกษาปูตินแล้ว ยังเคยดำรงตำแหน่งเป็นถึงอดีตรัฐมนตรีกระทรวงข้อมูลและการสื่อสารรัสเซียในช่วงระหว่างปี 1999 - 2004 และนอกจากนี้ ได้เข้าดำรงตำแหน่งผู้บริหารบริษัทสื่อยักษ์ใหญ่ ก๊าซปรอม-มีเดีย โฮลดิง ซึ่งเป็นสื่อในควบคุมของรัฐบาลหมีขาวเมื่อปี 2013 รวมไปถึงยังมีส่วนก่อตั้งสื่อรัสเซียภาคภาษาอังกฤษ “รัสเซียน ทูเดย์” หรือเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปในนาม RT

ดิอินดีเพนเดนต์ รายงานเพิ่มเติมว่า ในเบื้องต้น ตำรวจวอชิงตัน ดี.ซี. ยังไม่ได้ชี้ว่า การเสียชีวิตของเลซินเกิดมาจากการถูกสังหารด้วยฝีมือบุคคลอื่น ซึ่งสถานะการเสียชีวิตของเขาถูกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯระบุว่า “ยังไม่สามารถประเมินได้” และรอยเตอร์รายงานเพิ่มเติมต่อว่า จากการตรวจสอบห้องพักของ เลซิน ก็ไม่พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่าอาจจะเป็นการลอบสังหาร

โดยทางโฆษกของทางสำนักงานตำรวจวอชิงตัน ดี.ซี. ดัสติน สเติร์นเบ็ค (Dustin Sternbeck) แถลงว่า คดีเลซินกำลังอยู่ในระหว่างการสอบสวน “และในขณะนี้ทางเราไม่ต้องการตัดประเด็นใดออกไปทั้งสิ้น”

และ เบเวอร์ลี ฟิลด์ส (Beverly Fields) จากสำนักงานแพทย์นิติเวชได้ให้ความเห็นกับสื่ออังกฤษ ว่า คดีของเลซิน ถูกจัดเป็นหนึ่งในจำนวน 10% ของเคสที่ทางสำนักงานต้องใช้เวลานานกว่า 90 วันตามปกติในการเปิดเผยรายงานการชันสูตร ซึ่งถือเป็นกรณีที่ยุ่งยาก และซับซ้อน

ทั้งนี้ บีบีซี สื่ออังกฤษรายงานในวันศุกร์ (11 มี.ค) ว่า คดีการเสียชีวิตของเลซินทำให้รัสเซียต้องตั้งคำถามอย่างหนักต่อสหรัฐฯในการเสียชีวิตของอดีตที่ปรึกษาประธานาธิบดีปูตินวัย 57 ปีผู้นี้

ซึ่งโฆษกเครมลิน ดมิตรี เพชคอฟ (Dmitry Peskov) ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ไม่มีข้อมูลใดในคดีของเลซินถูกเปิดเผยออกมาจากสหรัฐฯผ่านช่องทางต่าง ๆ ถึงการเสียชีวิตของบุคคลสำคัญของรัสเซียคนนี้ โดยเพชคอฟได้ยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ทางรัสเซียต้องการคำตอบจากสหรัฐฯ “จากการรายงานของสื่อต่าง ๆ ในคดีนี้ ทางรัสเซียหวังว่าเราจะได้รับคำตอบจากอเมริกา” เพชคอฟ กล่าว

ซึ่งการให้สัมภาษณ์ของโฆษกเครมลินสอดคล้องกับการออกมาให้ข้อมูลของสถานทูตรัสเซียประจำกรุงวอชิงตัน ที่ได้เปิดเผยกับบีบีซี ว่า ทางสถานทูตเพิ่งรับทราบเหตุเสียชีวิตของ มิกาอิล เลซิน ในเรื่องการถูกของแข็งไม่มีคมทำให้ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงที่ศีรษะก็ต่อเมื่อทางสหรัฐฯได้ออกแถลงการณ์ร่วมรายงานผลชันสูตรศพในวันพฤหัสบดี (10 มี.ค) ไปแล้ว

โดย ยูริ เมลนิก ( Yuri Melnik) เลขานุการฝ่ายสื่อของสถานทูตรัสเซีย ยืนยันเพิ่มเติมว่า ทางรัสเซียได้ติดต่อสหรัฐฯเพื่อขอข้อมูลสำคัญในคดีนี้ ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ทว่ามีข้อมูลน้อยมากที่ได้รับแจ้งตอบกลับมา

อย่างไรก็ตาม ยังมีเงื่อนงำสงสัยอยู่อีกมากถึงการเสียชีวิตของเลซิน บีบีซี ชี้ เป็นต้นว่า เหตุใดชายผู้นี้ที่เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงข้อมูลและการสื่อสารรัสเซีย รวมไปถึงตำแหน่งสำคัญอื่น ๆ จึงเดินทางมายังกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. แต่บีบีซีชี้ว่า อาจมีข้ออธิบายได้ว่า การเดินทางมายังสหรัฐฯอาจสืบเนื่องมาจากญาติของเขาอาศัยอยู่ที่นี่ และรวมไปถึงผลประโยชน์ด้านธุรกิจ

โดยมีรายงานจากการเปิดเผยจากรอยเตอร์ที่น่าสนใจ พบว่า “ก่อนที่เลซินจะจบชีวิตในสหรัฐฯ เขาได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งในปีหน้า ด้วยเหตุผลด้านครอบครัว” ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์สหรัฐฯ นิวยอร์กไทม์ส ยังรายงานเพิ่มเติมว่า มีการพบว่า การบาดเจ็บของ มิกาอิล เลซิน เป็นผลมาจาก “เหตุโต้เถียง” ที่เกิดขึ้นก่อนที่ชายผู้นี้จะเดินทางกลับเข้าไปยังโรงแรมดูปองต์ เซอร์เคิล ซึ่งทำให้บีบีซี สื่ออังกฤษโยงไปถึงประเด็นข่าวลือต่าง ๆ ถึงความเป็นไปได้ เป็นต้นว่า ทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด

ซึ่งก่อนหน้านี้ เดลิเมล สื่ออังกฤษ ได้เปิดประเด็นทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด ว่า การเสียชีวิตของ มิกาอิล เลซิน ในต้นเดือนพฤศจิกายน 2015 อาจเกิดมาจากฝีมือการจัดฉากของทาง FBI สหรัฐฯ เพื่อต้องการให้ความคุ้มครองกับอดีตที่ปรึกษาปูตินผู้นี้ในฐานะพยานคนสำคัญ เพื่อต้องการข้อมูลภายในเครมลิน และของประธานาธิบดี ปูติน

ทั้งนี้ ในปี 2014 ส.ว. รัฐมิสซิสซิปปี โรเจอร์ วิกเกอร์ (Roger Wicker) ได้ร้องให้มีการตรวจสอบ มิกาอิล เลซิน ในคดีการฟอกเงิน จากการที่เขาได้ย้ายครอบครัวมาพำนักยังสหรัฐฯ และได้ลงทุนด้วยจำนวนตัวเลขหลายล้านดอลลาร์ในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในรัฐแคลิฟอร์เนียไว้ในความครอบครอง

นอกจากนี้ บีบีซียังได้ตั้งประเด็นต่อ โดยโยงไปถึงรายงานที่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่า มีรายงานพบว่า เลซินได้มีเหตุโต้เถียงกับ ยูริ โควาลชัค (Yuri Kovalchuk) คู่หมั้นของเขาซึ่งเป็นเพื่อนคนสนิทมานานของปูติน ที่อาจสอดคล้องกับการเปิดเผยของนิวยอร์กไทม์ส ที่ได้ชี้ว่า การบาดเจ็บของ มิกาอิล เลซิน เป็นผลมาจาก “เหตุโต้เถียง” ที่เกิดขึ้นก่อนที่จะเดินทางกลับเข้าไปยังตัวโรงแรม ซึ่งหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่สหรัฐฯได้เปิดเผยว่า จากภาพกล้องวงจรปิด แสดงให้เห็นว่า เลซินเดินทางกลับเข้ามาในสภาพที่ผมและเสื้อผ้าไม่เรียบร้อย

และบีบีซียังรายงานถึงการให้ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญทางด้านนิติวิทยาศาสตร์รัสเซีย อเล็กซานเดอร์ อูลอฟ(Alexander Aulov) ที่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อรัสเซียภาคภาษารัสเซีย Lenta.ru ที่ถูกเผยแพร่เมื่อวานนี้ว่า ลักษณะบาดแผลของ มิกาอิล เลซิน นั้น สอดคล้องกับการถูกตีด้วยของแข็งอย่างรุนแรง ไม่ใช่ได้รับจากอุบัติเหตุ หรือโรคลมชัก แต่อย่างใด




กำลังโหลดความคิดเห็น