เอเจนซีส์ / MGR online - ทางการซาอุดีอาระเบียทำการประหารชีวิตด้วยวิธีการตัดศีรษะนักโทษจำนวน 3 ราย ซึ่งประกอบด้วยพลเมืองซาอุฯ 1 รายและชาวเยเมนอีก 2 รายในวันพุธ (17 ก.พ.) จากความผิดฐานลักลอบค้ายาเสพติด โดยการประหารชีวิตนักโทษที่เกิดขึ้นล่าสุดนี้ ส่งผลให้ยอดรวมของนักโทษประหารที่ถูกทางการซาอุดีอาระเบียตัดศีรษะนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา เพิ่มจำนวนเป็น 63 รายแล้ว
รายงานข่าวซึ่งอ้างคำแถลงของกระทรวงมหาดไทยของราชอาณาจักรกลางทะเลทรายแห่งนี้ที่มีการเผยแพร่ผ่านสำนักข่าว Saudi Press Agency ของทางการระบุว่า ไดฟัลเลาะห์ อัล-ออมรานี ซึ่งเป็นพลเมืองซาอุฯ ถูกตัดศีรษะที่เขตตอบุกทางภาคเหนือของประเทศในวันพุธ (17) จากความผิดฐานลักลอบขน “ยาบ้า” เข้าประเทศ
ในขณะที่นักโทษประหารชาวเยเมนอีก 2 ราย ซึ่งประกอบด้วย อาเหม็ด มูบารัก และอับดุล ซาลาม อัล-ญามาลี ถูกตัดศีรษะที่เมืองจีซานทางตะวันตกเฉียงใต้ของซาอุฯ ในวันเดียวกัน จากการถูกตัดสินว่ากระทำความผิดฐานลักลอบขนกัญชาเข้าประเทศ
ในปี 2015 ที่ผ่านมา ทางการของราชอาณาจักรกลางทะเลทรายแห่งนี้ทำการประหารชีวิตนักโทษด้วยวิธีการตัดศีรษะสูงถึง 153 รายซึ่งรวมถึงชาวต่างชาติจำนวน 71 ราย ถือเป็นสถิติการประหารชีวิตที่สูงที่สุดของซาอุฯ นับตั้งแต่ปี 1995 เป็นต้นมา และยังส่งผลให้ซาอุดีอาระเบียติดอันดับหนึ่งในประเทศที่มีการประหารชีวิตนักโทษสูงที่สุดในโลกร่วมกับสาธารณรัฐประชาชนจีนและอิหร่าน
ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา บรรดากลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนทั่วโลก ซึ่งรวมถึงกลุ่ม “Human Rights Watch” ที่มีฐานอยู่ในมหานครนิวยอร์กของสหรัฐฯ ได้ออกโรงโจมตีและเรียกร้องให้ทางการซาอุฯ เลิกการประหารชีวิตนักโทษที่เกิดขึ้นแทบจะเป็นรายวัน
ทั้งนี้ ตามกฎหมายอิสลามที่เข้มงวดที่มีการบังคับใช้ในซาอุดีอาระเบียนั้น ผู้ที่จะถูกประหารชีวิตคือผู้ที่ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดฐานปล้นโดยใช้อาวุธ ค้ายาเสพติด ข่มขืน ฆาตกรรม และข้อหาเอาใจออกห่างจากศาสนาอิสลาม