รอยเตอร์ - “เซอร์แฮน เซอร์แฮน” ฆาตกรที่สังหาร ส.ว. โรเบิร์ต ฟรานซิส เคนเนดี น้องชายของอดีตประธานาธิบดี จอห์น เอฟ. เคนเนดี ถูกทางการสหรัฐฯ ปฏิเสธคำร้องขอทำทัณฑ์บนเป็นครั้งที่ 15 เมื่อวานนี้ (10 ก.พ.) เจ้าหน้าที่เรือนจำในรัฐแคลิฟอร์เนียเผย
คณะกรรมการพิจารณาคำร้องขอทำทัณฑ์บนแห่งรัฐแคลิฟอร์เนียแถลงผ่านเว็บไซต์ว่า เซอร์แฮน วัย 71 ปี เข้ารับการไต่สวนเพื่อพิจารณาคุณสมบัติที่เรือนจำ ริชาร์ด เจ. โดโนแวน ใกล้ๆ เมืองซานดิเอโก
หลุยส์ ปาติโน โฆษกกรมราชทัณฑ์และการฟื้นฟูผู้ต้องขังแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย (California Department of Corrections and Rehabilitation) ระบุว่า หลังจากถูกปฏิเสธคำร้องคราวนี้ เซอร์แฮนจะมีสิทธิ์ยื่นขอทำทัณฑ์บนใหม่ในอีก 5 ปีข้างหน้า
เซอร์แฮน ซึ่งเป็นผู้อพยพชาวปาเลสไตน์ ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในคดียิงสังหาร เคนเนดี วัย 42 ปี ที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ นครลอสแองเจลิส เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ปี 1968 โดยเหตุฆาตกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่นาที หลังจากเคนเนดี ซึ่งเป็น ส.ว.เดโมแครตรัฐนิวยอร์กและอดีตอัยการสูงสุด ขึ้นกล่าวปราศรัยในโอกาสที่ตนได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งแบบไพรมารีที่รัฐแคลิฟอร์เนีย
เคนเนดีเสียชีวิตในวันต่อมา
เซอร์แฮนถูกศาลพิพากษาประหารชีวิตในปี 1969 แต่ต่อมาถูกปรับให้เป็นโทษจำคุกตลอดชีวิตแทน เนื่องจากรัฐแคลิฟอร์เนียสั่งยกเลิกโทษประหาร
พอล ชราด วัย 91 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเคนเนดี และเป็น 1 ใน 5 คนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุกราดยิงครั้งนั้น เสนอให้คณะกรรมการอนุมัติทัณฑ์บนแก่เซอร์แฮน เนื่องจากมีหลักฐานพิสูจน์ว่าเคนเนดี เสียชีวิตเพราะคมกระสุนของมือปืนคนที่ 2
“มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าคุณไม่ใช่มือปืนที่ยิง โรเบิร์ต เคนเนดี” ชราดระบุในคำแถลงที่ร่างไว้
เซอร์แฮนลั่นกระสุนใส่เคนเนดีจากด้านหน้า แต่ผลการชันสูตรกลับพบว่า ส.ว.หนุ่มใหญ่ถูกยิงจากด้านหลัง 3 นัด รวมถึงที่หลังและศีรษะ ซึ่งทำให้เขาถึงแก่ความตาย
ชราดอ้างผลตรวจวิเคราะห์คลิปเสียง ซึ่งพบว่ามีเสียงปืนดังออกมารวมทั้งสิ้น 13 นัด แต่ปืนของเซอร์แฮนบรรจุกระสุนไว้เพียง 8 นัด และเขาก็ไม่มีเวลาพอที่จะใส่กระสุนเพิ่มด้วย
ชราดเชื่อว่ากระบวนการสอบสวนของสำนักงานตำรวจลอสแองเจลิสมีความไม่ชอบมาพากล และเรียกร้องให้รื้อคดีนี้ใหม่
ปีที่แล้วผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ก็ปฏิเสธการอ้างเหตุผลเดียวกันนี้ของทีมทนายเซอร์แฮน ซึ่งยืนยันว่าลูกความเป็นผู้บริสุทธิ์ และขอให้ศาลคืนอิสรภาพแก่เขา
เซอร์แฮนเคยให้สัมภาษณ์ว่าตนจำเหตุการณ์ขณะลอบสังหารไม่ได้ แต่ก็เคยยอมรับอีกเช่นกันว่าตนได้ลงมือยิงเคนเนดี เพราะไม่พอใจที่เขาหนุนหลังอิสราเอล
อดีตประธานาธิบดี จอห์น เอฟ. เคนเนดี ซึ่งเป็นพี่ชายแท้ๆ ของ ส.ว.เคนเนดี ก็ต้องจบชีวิตลงจากการถูกลอบสังหารเมื่อปี 1963
