กษัตริย์จอร์แดนยอมรับ “ผู้ลี้ภัยซีเรียล้นประเทศ” ใกล้ถึงจุดที่ “รับไม่ไหว”

เอเจนซีส์ - สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์แห่งจอร์แดน พระราชทานสัมภาษณ์แก่สถานีโทรทัศน์บีบีซีของอังกฤษ โดยทรงยอมรับว่า ขณะนี้มีผู้ลี้ภัยจากซีเรียไหลทะลักเข้าสู่จอร์แดนแล้วกว่า 600,000 คน และใกล้ถึง “จุดวิกฤต” ที่ไม่อาจรับเพิ่มได้อีก

สมเด็จพระราชาธิบดี ตรัสว่า ผู้คนที่หนีภัยสงครามมาจากซีเรียกำลังเป็นภาระหนักอึ้งต่อระบบสวัสดิการสังคม โครงสร้างพื้นฐาน และเศรษฐกิจของจอร์แดน

“เขื่อนคงต้องมีวันแตก ไม่ช้าก็เร็ว” พระองค์ตรัส

กษัตริย์จอร์แดนทรงวิงวอนให้ประชาคมโลกยื่นมือช่วยเหลือชาวซีเรียมากกว่านี้ หากยังต้องการให้จอร์แดนเปิดพรมแดนรับผู้ลี้ภัยต่อไป

องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประกาศระดมทุน 7,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนภารกิจบรรเทาทุกข์แก่ผู้ลี้ภัยราว 22.5 ล้านคนในซีเรีย และประเทศเพื่อนบ้านในปี 2017 แต่จนถึงขณะนี้ เพิ่งจะมีเงินบริจาคเข้ามาเพียง 43% ของวงเงิน 2,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ยูเอ็นร้องขอในปี 2015

เป็นเวลาหลายสิบปีมาแล้วที่จอร์แดนเปิดประตูต้อนรับผู้คนที่เดือดร้อนจากภัยสงคราม ไม่ว่าจะเป็นชาวปาเลสไตน์ ชาวอิรัก และล่าสุด ก็คือ ผู้ลี้ภัยซีเรีย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 20% ของประชากรจอร์แดนในปัจจุบัน

“นี่เป็นครั้งแรกที่เราอาจจะช่วยต่อไปไม่ไหว” สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ ตรัส

สมเด็จพระราชาธิบดีจะเสด็จฯ เข้าร่วมการประชุมผู้บริจาคช่วยเหลือซีเรีย (Syria donors conference 2016) ที่กรุงลอนดอนในสัปดาห์นี้ เพื่อเจรจาต่อรองกับผู้นำชาติยุโรป เพราะหากยุโรปยังต้องการให้จอร์แดนช่วยสร้างงานให้แก่ผู้ลี้ภัยซีเรีย เพื่อให้พวกเขาปักหลักอยู่ในตะวันออกกลางได้ต่อไปโดยไม่มุ่งหน้าไปยังยุโรป รัฐบาลจอร์แดนก็คาดหวังให้ยุโรปมอบความช่วยเหลือระยะยาวในส่วนของการจ้างงานให้แก่พลเมืองจอร์แดนเช่นกัน

ขณะนี้มีผู้ลี้ภัยซีเรียในจอร์แดนเพียง 1% เท่านั้นที่มีใบอนุญาตทำงาน ซึ่งสมเด็จพระราชาธิบดีทรงตระหนักดีกว่า การเปิดตลาดงานให้แก่ผู้ลี้ภัยอาจสร้างความไม่พอใจแก่ชาวจอร์แดน เว้นเสียแต่ว่ารัฐบาลจะหยิบยื่นโอกาสใหม่ ๆ ให้แก่พลเมืองของตนด้วย

จอร์แดนรับผู้ลี้ภัยซีเรียเข้าประเทศแล้วประมาณ 635,000 คน จากทั้งหมด 4.6 ล้านคน ที่ขึ้นทะเบียนโดยยูเอ็น แต่รัฐบาลระบุว่า ในความเป็นจริงมีชาวซีเรีย “กลุ่มอื่น ๆ” อาศัยอยู่บนแผ่นดินจอร์แดนอีกมากกว่า 1 ล้านคน ซึ่งรวมถึงพวกที่เดินทางเข้าไปก่อนที่สงครามกลางเมืองซีเรียจะปะทุขึ้นเมื่อปี 2011

สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ ทรงเผยกับบีบีซี ว่า ปัญหาผู้ลี้ภัยส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวจอร์แดน เพราะรัฐต้องเจียดงบประมาณราว 25% ไปดูแลคนเหล่านี้ ส่วนบริการด้านสาธารณสุขและการศึกษาก็เริ่มไม่พอเพียงต่อความต้องการ พลเมืองจอร์แดนจำนวนมากยังหางานทำไม่ได้

พระองค์ยังทรงชี้ว่า กว่ายุโรปจะเข้าใจถึงแรงกดดันที่จอร์แดนได้รับมาโดยตลอด ก็ต้องรอจนกระทั่งมีผู้อพยพและผู้ลี้ภัยไหลทะลักเข้าสู่ยุโรปแล้วกว่า 1 ล้านคน ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา

“พวกเขาคงตระหนักเสียทีว่า ถ้าไม่ช่วยจอร์แดน ยุโรปเองนั่นแหละที่จะจัดการวิกฤตผู้อพยพได้ลำบากขึ้น” หากถึงวันหนึ่งที่จอร์แดนไม่สามารถรองรับผู้อพยพได้อีก

สหราชอาณาจักร เยอรมนี นอร์เวย์ คูเวต และสหประชาชาติ ซึ่งร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้บริจาคช่วยเหลือซีเรียที่กรุงลอนดอนในวันพฤหัสบดี (4) เรียกร้องให้ประชาคมโลกยกระดับการช่วยเหลือเจือจุนชาวซีเรีย 13.5 ล้านคน ที่พลัดถิ่นฐานในประเทศ และอีกหลายล้านชีวิตที่ต้องหนีภัยสงครามไปอยู่ต่างแดน

เมื่อวานนี้ (1) สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ ซึ่งระบุว่า สหภาพยุโรปเตรียมประกาศมอบความช่วยเหลือมูลค่า 2,000 ล้านยูโรในการประชุมที่ลอนดอน หลังจากที่เคยสัญญามอบความช่วยเหลือ 1,100 ล้านยูโร ในการประชุมที่คูเวตเมื่อ 1 ปีก่อน