เอเจนซีส์ / MGR online - มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 21 ราย และอีก 16 รายได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดอุบัติเหตุรถชนต่อเนื่องกันครั้งใหญ่ทางตอนใต้ของกรุงไคโร เมืองหลวงของแดนไอยคุปต์
รายงานข่าวซึ่งอ้างคำแถลงของกระทรวงสาธารณสุขของอียิปต์ระบุว่า อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ (31 ม.ค.) ที่ผ่านมา บนทางหลวงสายหนึ่งไม่ไกลจากเมืองเบนี ซูเอฟ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงไคโรไปทางใต้ราว 95 กิโลเมตร และอุบัติเหตุในครั้งนี้ส่งผลให้ต้องมีการปิดการจราจรนานกว่า 3 ชั่วโมง
คำแถลงของกระทรวงสาธารณสุขของอียิปต์ระบุว่า ทัศนวิสัยอันเลวร้ายจากภาวะหมอกลงจัด และการขับขี่ด้วยความเร็วสูงของบรรดาผู้ใช้รถใช้ถนน คือต้นเหตุสำคัญที่นำไปสู่อุบัติเหตุในครั้งนี้
ทั้งนี้ ถนนหนทางซึ่งขาดการดูแลซ่อมบำรุงในอียิปต์ติดอันดับเส้นทางคมนาคมที่ได้ชื่อว่ามีอันตรายที่สุดในโลก โดยข้อมูลของทางการแดนไอยคุปต์ระบุในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนกว่า 10,000 รายต่อปีในอียิปต์
ก่อนหน้านี้เพียง 1 วันมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 25 ราย ในวันเสาร์ (30 ม.ค.) หลังเกิดอุบัติเหตุรถชนต่อเนื่องกันมากกว่า 50 คันซ้อน บนทางหลวงสายหนึ่งทางตะวันตกของสโลวีเนีย ท่ามกลางสภาพอากาศที่มีหมอกลงปกคลุมหนาทึบ
รายงานข่าวซึ่งอ้าง อนิตา เลสโคเวช โฆษกหญิงของสำนักงานตำรวจในพื้นที่ ระบุว่า จนถึงขณะนี้พบผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถชนต่อเนื่องมากกว่า 50 ครั้งนี้แล้วอย่างน้อย 4 ราย และอีกราว 25 รายได้รับบาดเจ็บ พร้อมยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งเคลียร์พื้นที่เพื่อหวังจะกลับมาเปิดการจราจรได้ตามปกติอีกครั้ง
ข้อมูลจากการเปิดเผยของโฆษกตำรวจหญิงรายดังกล่าวยังระบุด้วยว่า จำนวนรถที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุในครั้งนี้มีอย่างน้อย 55 คัน ซึ่งรวมถึงรถบัสโดยสารคันหนึ่ง และรถบรรทุกอีก 4 คัน
ขณะเดียวกันยังมีการยืนยันว่า สภาพอากาศที่เลวร้ายและทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ย่ำแย่จากผลพวงของหมอกที่ลงจัด ยังทำให้เกิดอุบัติเหตุรถชนกันอีก 3-4 จุดบนทางหลวงสายเดียวกันนี้
ด้านสถานีวิทยุ “Radio Slovenija” ของทางการสโลวีเนีย รายงานไปก่อนหน้านี้ โดยอ้างแหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐบาลว่า อุบัติเหตุรถชนกันมากกว่า 50 คันในครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงบ่ายของวันเสาร์ (30) ใกล้กับเมืองเซโนเซเซที่อยู่ห่างจากกรุงลุบเลียนา เมืองหลวงของประเทศไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 60 กิโลเมตร
ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า ผลพวงจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ทำให้ทางการสโลวีเนียต้องสั่งปิดการจราจรบนทางหลวงสายที่เชื่อมต่อระหว่างทะเลอาเดรียติกกับเมืองหลวงของประเทศเป็นเวลาหลายชั่วโมง