เอเอฟพี - มือระเบิดฆ่าตัวตายเด็กอายุแค่ 12 ขวบ จุดชนวนที่ตลาดแห่งหนึ่งทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรียเมื่อวันศุกร์ (29 ม.ค.) คร่าชีวิตอย่างน้อย 10 ศพ นับเป็นนองเลือดล่าสุดในภูมิภาคแถบนี้ที่ถูกห้อมล้อมด้วยเหตุรุนแรงจากฝีมือพวกนักรบอิสลามิสต์
พวกผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าระเบิดตูมสนั่นหวั่นไหวดังขึ้นตอนเวลาประมาณเที่ยงวัน (ตรงกับเมืองไทย 18.00 น.) ในตลาดที่แออัดไปด้วยผู้คนในเมืองกอมบิ ในรัฐอดามาวา หนึ่งในดินแดนที่ได้รับผลกระทบเลวร้ายที่สุดในเหตุความไม่สงบจากฝีมือของพวกโบโกฮารัม
เมืองกอมบิซึ่งตั้งอยู่ห่างจากโยลา เมืองเอกของรัฐราว 120 กิโลเมตร เคยถูกพวกโบโกฮารัมโจมตีมาแล้วหลายครั้ง โดยหนหลังสุดเกิดขึ้นในเดือนมีนาคม 2015
เหตุระเบิดคราวนี้เกิดขึ้นไม่กี่วัน หลังจากมือระเบิดฆ่าตัวตาย 3 รายลงมือโจมตีเมืองไชบอค คร่าชีวิตอย่างน้อย 14 ศพในวันพุธ (27 ม.ค.) ขณะที่เมืองแห่งนี้คือสถานที่เกิดเหตุมือปืนอิสลามิสต์จู่โจมโรงเรียนและลักพาตัวเด็กนักเรียนหญิงไปมากกว่า 200 คนในเดือนเมษายน 2014
ประธานาธิบดีมูฮัมมาดู บูฮารี แห่งไนจีเรียประกาศเมื่อเดือนที่แล้วว่า เครือข่ายของกลุ่มรัฐอิสลามประสบความปราชัยทางเทคนิคต่อกองกำลังรัฐบาลแล้ว แต่ยังไม่หยุดก่อเหตุโจมตีด้วยระเบิดและมือระเบิดฆ่าตัวตาย
ในเหตุจู่โจมล่าสุด ผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งบอกกับเอเอฟพีว่า “ผมได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นมาจากพื้นที่ค้าเมล็ดพันธุ์ ซึ่งอยู่บริเวณริมตลาด พวกเราหลายคนรุดไปยังจุดเกิดเหตุและพบผู้คนถูกสังหารหมู่ ร่างผู้เสียชีวิตกระจัดกระจายไปทั่ว ผมเห็นคนตาย 10 คน แต่ไม่สามารถให้ตัวเลขผู้ได้รับบาดเจ็บที่แน่ชัดได้ เนื่องจากมีคนบาดเจ็บมากเหลือเกิน”
อาดามู อาห์หมัด เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตลาด ให้ตัวเลขเหยื่อเช่นเดียวกับผู้เห็นเหตุการณ์รายนี้ พร้อมเชื่อว่ามือระเบิดน่าจะเป็นเด็กชายอายุประมาณ 12 ขวบ “เกิดระเบิดฆ่าตัวตายบริเวณส่วนเมล็ดพันธุ์ของตลาดราวๆ เที่ยงวัน แรงระเบิดสังหารผู้คนอย่างน้อย 11 ศพและบาดเจ็บหลายคน เชื่อว่าเหตุระเบิดน่าจะลงมือโดยเด็กชายอายุราวๆ 12 ขวบ วันนี้เป็นวันตลาดในกอมบิ และผู้คนหลายพันคนเดินทางมาจับจ่ายในตลาดแห่งนี้” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกล่าว พร้อมเผยว่าตลาดปิดทำการหลังเกิดเหตุระเบิด และพ่อค้าแม่ค้าก็รุดกลับบ้านทันที
โบโกฮารัมหวังสถาปนารัฐอิสลามทางภาคเหนือของไนจีเรีย ซึ่งชนกลุ่มใหญ่เป็นชาวมุสลิม และมีประชาชนถูกสังหารแล้วอย่างน้อย 17,000 คน นับตั้งแต่พวกเขาเริ่มก่อเหตุความไม่สงบในปี 2009
ทั้งนี้ในเวลาเดียวกันนั้น ประชาชนอีกกว่า 2.6 ล้านคนต้องหลบหนีออกจากบ้าน ในนั้นมีถึง 2 ล้านคนที่ต้องไร้ถิ่นฐานอยู่ภายในไนจีเรีย ส่วนคนอื่นๆ พากันหลบหนีเข้าไปยังชาติเพื่อนบ้านอย่างแคเมอรูน ชาดและไนเจอร์
กองทัพไนจีเรียเริ่มต้นปฏิบัติการตอบโต้พวกหัวรุนแรงเมื่อปีที่แล้ว ภายใต้การสนับสนุนของกองกำลังจากประเทศเพื่อนบ้านโดยรอบ ซึ่งก็ประสบความสำเร็จในการทวงคืนดินแดนอันกว้างขวางที่ถูกพวกนักรบยึดไปในปี 2014 แต่ขณะเดียวกันก็กลับกลายเป็นว่ามีเหตุโจมตีข้ามพรมแดนเล็งเป้าหมายอ่อนแอเกิดขึ้นแบบรายวัน