เอเอฟพี – มาร์เซโล เรเบโล เด โซซา อาจารย์สอนวิชากฎหมายจากมหาวิทยาลัยลิสบอนและพิธีกรรายการวิเคราะห์การเมือง คว้าชัยชนะแบบขาดลอยในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีโกรตุเกสเมื่อวันอาทิตย์(24 ม.ค.) ด้วยคะแนนเสียงร้อยละ 52
เรเบโล เด โซซา รับคะแนนโหวตอย่างล้นหลาม ทิ้งห่างคู่แข่งอันดับ 2 อย่าง อันโตนิโอ ซัมไปโอ ดา โนโวอา ผู้สมัครอิสระหัวซ้ายซึ่งกวาดคะแนนไปได้เพียงร้อยละ 22.89 ตามผลการนับคะแนนที่เสร็จสิ้นเกือบจะครบทุกหน่วยเลือกตั้ง
ทั้งนี้ ผู้ที่ชนะจะต้องได้คะแนนเกินกว่าร้อยละ 50 เพื่อหลีกเลี่ยงการจัดเลือกตั้งรอบที่ 2
แม้จะมีบทบาทในเชิงพิธีการเสียส่วนใหญ่ ทว่าประธานาธิบดีโปรตุเกสก็เป็นตำแหน่งซึ่งมีอิทธิพลในการชี้ชะตากลุ่มพรรครัฐบาล และยังมีอำนาจสั่งยุบสภาหากสถานการณ์การเมืองเข้าขั้นวิกฤต ด้วยเหตุนี้ การเลือกตั้งประธานาธิบดีในโปรตุเกสจึงเป็นที่สนใจมากพอสมควรในยุโรป
สหภาพยุโรป (อียู) กำลังเฝ้าจับตาว่ารัฐบาลโปรตุเกสจริงใจที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขรัดเข็มขัดเข้มงวดเพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจหรือไม่ ก่อนที่จะมีมติปลดล็อกเงินช่วยเหลือมูลค่า 78,000 ล้านยูโร
“ผมต้องการนำความเป็นหนึ่งเดียวในชาติกลับคืนมา... ในขณะที่ประเทศของเรากำลังก้าวข้ามวิกฤตเศรษฐกิจและสังคมที่หนักหนาสาหัส” เรเบโล เด โซซา กล่าว พร้อมให้คำมั่นว่า “จะเป็นประธานาธิบดีที่เสรี และไม่ขึ้นกับฝ่ายใด”
เรเบโล เด โซซา ซึ่งเป็นอดีตประธานพรรคโซเชียลเดโมเครติกที่มีแนวคิดเอียงขวา ถือเป็นผู้สมัครที่มาแรงสุดในบรรดา 10 คนที่ลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีโปรตุเกส ด้วยชื่อเสียงในแวดวงรัฐศาสตร์ที่สั่งสมมานานหลายสิบปี ผู้ชมรายการทีวีของเขามักจะเรียกเขาว่า “อาจารย์มาร์เซโล”
แม้จะมีพรรคการเมืองฝ่ายขวาให้การสนับสนุนอยู่ แต่ เรเบโล เด โซซา ยืนยันว่า ตนไม่สังกัดฝ่ายใด และพร้อมที่จะ “ยืนอยู่เหนือความขัดแย้ง”