เอเอฟพี - จำนวนนักท่องเที่ยวซึ่งออกเดินทางไปพักผ่อนยังต่างประเทศทั่วโลกเพิ่มขึ้นราว 4.4% ในปี 2015 หรืออยู่ที่ราวๆ 1,118 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงเป็นประวัติการณ์ แม้จะมีกระแสหวาดกลัวภัยคุกคามจากการก่อการร้ายก็ตาม องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) เผยวานนี้ (18 ม.ค.)
หน่วยงานยูเอ็นซึ่งมีฐานในกรุงมาดริด และได้ติดตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าพักค้างคืนตามแหล่งท่องเที่ยวทั่วโลก พบว่าฝรั่งเศสยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับ 1 รองลงมาได้แก่ สหรัฐฯ สเปน และจีน
“สถิตินักท่องเที่ยวในปี 2015 ได้รับอิทธิพลจากอัตราแลกเปลี่ยน ราคาน้ำมัน ตลอดจนวิกฤตการณ์ทางธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างขึ้นในหลายภาคส่วนของโลก” ตอเล็บ ริไฟ เลขาธิการ UNWTO ระบุในงานแถลงข่าว
ราคาน้ำมันที่ตกต่ำส่งผลให้ค่าเดินทางถูกลง แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้อุปสงค์การท่องเที่ยวในประเทศผู้ส่งออกน้ำมันลดลงตามไปด้วย ขณะที่ภาวะอ่อนค่าของเงินยูโรทำให้ชาวอเมริกันนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวในภูมิภาคยุโรปเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ดี ภาคการท่องเที่ยวก็ได้รับผลกระทบจากภัยคุกคามก่อการร้ายที่ค่อนข้างรุนแรงในปี 2015 ไม่ว่าจะเป็นเหตุโจมตีในอียิปต์ ฝรั่งเศส เลบานอน ตูนิเซีย มาลี และประเทศอื่นๆ
“เรากำลังเผชิญภัยคุกคามระดับโลก ในแง่ของความปลอดภัยและความมั่นคง” ริไฟ ซึ่งเป็นอดีตรัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวของจอร์แดน กล่าว
“เราคงไม่อาจกล่าวได้อีกต่อไปว่า นี่เป็นปัญหาของอียิปต์ หรือฝรั่งเศส หรือตูนิเซีย หรือตุรกี หรือไทย หรืออินโดนีเซีย” เขากล่าว โดยอ้างถึงประเทศที่เผชิญเหตุวินาศกรรมร้ายแรงในช่วงปีที่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ถูกอ้างความรับผิดชอบโดยกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส)
“เราต้องออกเดินทางท่องเที่ยวกันต่อไป ความกังวลเรื่องความปลอดภัยและความมั่นคงไม่ควรจะบั่นทอน หรือเปลี่ยนแปลงทัศนคติของเราที่จะทำให้โลกนี้เปิดเสรียิ่งขึ้น”
UNWTO ชี้ว่า นับเป็นปีที่ 6 ต่อเนื่องที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวยังคงเติบโตเกินค่าเฉลี่ย หลังเกิดวิกฤตการเงินโลกเมื่อปี 2008 โดยก่อนหน้านี้ทางหน่วยงานประเมินว่า ยอดนักท่องเที่ยวทั่วโลกในปี 2015 จะเติบโตได้เพียง 3-4% เท่านั้น
UNWTO ยังคาดการณ์ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวนานาชาติจะเพิ่มขึ้นราว 4% ในปี 2016 และทำนายว่านักท่องเที่ยวซึ่งพักค้างคืนในต่างประเทศจะพุ่งสูงถึง 1,400 ล้านคนภายในปี 2020
“การท่องเที่ยวนานาชาติยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง... เหตุโจมตีที่เกิดขึ้นในปีที่แล้วจะไม่ส่งผลกระทบในระยะกลาง และระยะยาว” ริไฟกล่าว
บางประเทศมีจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงในปีที่แล้วเนื่องจากกระแสหวาดกลัวการก่อการร้าย เช่น กรณีกราดยิงนักท่องเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์บาร์โดในกรุงตูนิส และเหตุสังหารหมู่ที่รีสอร์ตในเมืองซูสส์ ซึ่งคร่าชีวิตนักท่องเที่ยวไป 59 ราย ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไปเยือนตูนิเซียลดลงเหลือเพียง 5.2 ล้านคนในปี 2015 จากที่เคยพุ่งสูงถึง 7.2 ล้านคนในปี 2014
นักท่องเที่ยวที่ไปเยือนแอฟริกาเหนือลดลง 8% ในปีที่แล้ว ส่วนในภูมิภาคซับ-ซาฮาราลดลง 1% เนื่องจากการระบาดของไวรัสอีโบลา
ยุโรปซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนมากที่สุด ตลอดจนเอเชีย-แปซิฟิก และทวีปอเมริกา ต่างมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นราว 5% ในปี 2015
จีนยังเป็นแหล่งส่งออกนักท่องเที่ยวอันดับ 1 ของโลก ซึ่งเอื้อประโยชน์ให้แก่แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของภูมิภาค เช่น ญี่ปุ่น และไทย รวมไปถึงสหรัฐฯ และยุโรปอีกหลายประเทศ
นักท่องเที่ยวจีนยังเป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายเงินมากที่สุดในปีที่แล้ว โดยจีนนั้นมีสถิติการใช้จ่ายเงินเพื่อการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็นเลข 2 หลักทุกปีมาตั้งแต่ปี 2004 สวนทางกับรัสเซียและบราซิลซึ่งมีสถิติการใช้จ่ายในด้านนี้ “ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ” อันสะท้อนผลพวงจากปัญหาเศรษฐกิจและภาวะอ่อนค่าของสกุลเงินท้องถิ่นที่ทั้ง 2 ชาติกำลังเผชิญอยู่