เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่เม็กซิโกสามารถตามจับ “นายโจควิน กุซมัน” เจ้าของฉายา “เอล ชาโป” กลับมาได้สำเร็จ หลังจากที่เขาขุดพื้นห้องขังและหลบหนีผ่านอุโมงค์ใต้ดินความยาวกว่า 1.5 กิโลเมตร ลอยนวลออกจากเรือนจำที่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสุดแห่งหนึ่งของประเทศไปได้ 6 เดือน
ประธานาธิบดีเอนริเก เปนญา เนียโต เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์เมื่อวันศุกร์ (8 ม.ค.) ว่า “ภารกิจลุล่วงแล้ว เราได้ตัวเขา ผมประสงค์แจ้งต่อประชาชนชาวเม็กซิโกว่า โจควิน กุซมัน โลเอรา ถูกจับกุมแล้ว”
ด้านโฆษกของประธานาธิบดียืนยันกับเอเอฟพีว่าทวีตดังกล่าวเป็นของจริง แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใๆเพิ่มเติม โดยเพียงแต่บอกว่าจะมีการเปิดแถลงข่าวหลังจากนี้ในวันศุกร์ (8 ม.ค.)
นาวิกโยธินเม็กซิโกปฏิบัติการอย่างกว้างขวางในรัฐซีนาโลอา และรัฐดูรังโก ในความพยายามล่าตัวนายกุซมัน ราชายาเสพติดวัย 58 ปี ที่หลบหนีออกจากเรือนจำได้อย่างน่าตกตะลึงเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมปีก่อน
ข่าวคราวการจับกุมมีขึ้นไม่นาน หลังกองทัพเรือแจ้งว่ามีผู้ต้องสงสัย 5 คนถูกสังหารและทหารเสียชีวิต 1 นาย ในเหตุปะทะกับนาวิกโยธินใรเมืองลอสโมชิส รัฐซีนาโลอา แต่ไม่ได้บ่งชี้ว่าเหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับนายกุซมันหรือไม่
ถ้อยแถลงของกองทัพเรือเผยว่ามีผู้ต้องสงสัยอีก 6 คนถูกควบคุมตัวตามหลังเหตุปะทะ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากหน่วยนาวิกโยธินได้รับแจ้งว่าพบเห็นกลุ่มชายติดอาวุธอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง อย่างไรก็ตาม หัวหน้าแก๊งต้องสงสัยที่ถูกระบุว่าคือนายออร์โว อิวาน กัสเตลัม ครู ซึ่งอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าวด้วย สามารถหลบหนีไปได้
เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม หรือ 17 เดือนหลังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำอัลติพลาโน ซึ่งมีมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดและตั้งอยู่ตอนกลางของเม็กซิโก นายกุซมันหลบหนีผ่านหลุมในห้องอาบน้ำ ขึ้นรถจักรยานต์ที่แล่นบนรางและวิ่งในอุโมงค์ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร ไปโผล่ที่บ้านหลังหนึ่ง
ในวันเกิดเหตุนายกุซมัน ขอเข้าไปยังบริเวณพื้นที่อาบน้ำของเรือนจำก่อนหายตัวไป และต่อมาเจ้าหน้าที่พบหลุมลึกขนาด 10 เมตรพร้อมกับบันไดไต่ลงไปอย่างดี
ทั้งนี้ อุโมงค์ที่มีการติดตั้งทั้งระบบระบายอากาศและแสงสว่าง ทอดยาวไปสิ้นสุดที่บ้านหลังหนึ่งด้านนอกกำแพงเรือนจำ ขณะเดียวกันก็ประจักษ์ชัดว่ามีการใช้รถจักรยานยนต์วิ่งบนราง ช่วยลำเลียงเครื่องไม้เครื่องมือและบรรทุกดินจากอุโมงค์ออกไปทิ้งภายนอก
เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายสหรัฐฯ และเม็กซิโก บอกว่าจากนั้นกุซมัน ได้บินหนีไปยังบ้านเกิดเขตอิทธิพลของเขาตามแนวชายแดนรัฐซีนาโลอาและรัฐดูรังโก เพราะที่นั่นเขาถูกมองในฐาะโรบินฮู้ดยุคใหม่
หน่วยนาวิกโยธินเคยเกือบจับกุมตัวเขามาได้หนหนึ่งในเดือนตุลาคม ในแถบภูเขาห่างไกลที่คร่อมระหว่างสองรัฐ โดยเจ้าหน้าที่บอกว่านายกุซมันได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้าและเขา เนื่องจากตกเขาในภูมิประเทศที่ขรุขระ แต่กองกำลังพิเศษก็ไม่สามารถจับกุมตัวเขาได้
หลังจากถูกจับที่กัวเตมาลาในปี 1993 การแหกคุกครั้งแรกของ เอล ชาโป ได้เกิดขึ้นในปี 2001 ตอนนั้นเขาเล็ดรอดสายตาเจ้าหน้าที่ได้ด้วยการแอบในรถเข็นซักรีด
แต่ในที่สุดนาวิกโยธินก็สามารถจับเขากลับมาได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2014 จากการบุกจู่โจมเข้าจับกุมช่วงก่อนรุ่งสาง ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในเมืองมาซัตลัน รัฐซีนาโลอา