รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและแหล่งข่าวในโรงพยาบาลระบุในวันพฤหัสบดี (7 ม.ค.) ว่ามีรถบรรทุกซึ่งถูกใช้เป็นคาร์บอมบ์ได้เข้าไประเบิดในศูนย์ฝึกตำรวจที่เมืองสไลเทน ประเทศลิเบีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 65 ราย ได้รับบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก ถือเป็นการก่อเหตุโจมตีที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายปีของลิเบีย
ยังไม่มีกลุ่มใดออกมายอมรับว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุครั้งนี้ ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในการโจมตีที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งของลิเบีย นับตั้งแต่พวกกลุ่มติดอาวุธชาวมุสลิมได้เริ่มปรากฏตัวให้เห็นมากขึ้น ท่ามกลางความวุ่นวายหลังการล่มสลายของ “มูอัมมาร์ กัดดาฟี” ในปี 2011
นายกเทศมนตรี มิฟตาห์ ฮามาดี ระบุว่า คาร์บอมบ์คันนี้ระเบิดขึ้นตอนที่บรรดาตำรวจใหม่กำลังมารวมตัวกันที่ศูนย์ฝึกตำรวจในเมืองสไลเทน ที่อยู่แถบชายฝั่ง คั่นกลางระหว่างกรุงตริโปลีกับเมืองท่ามิสราตา
ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ชาวบ้านช่วยกันขนย้ายผู้เคราะห์ร้ายไปยังโรงพยาบาลมิสราตา ด้วยรถพยาบาลและรถยนต์ส่วนตัว มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดเป็นจำนวนมาก ด้านแหล่งข่าวในโรงพยาบาลบอกว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 65 ราย ในจำนวนนั้นมีพลเรือนด้วย
นับตั้งแต่ฝ่ายกบฏที่นาโต้หนุนหลังได้โค่นล้มกัดดาฟี ลิเบียก็ได้ถลำลึกเข้าสู่ความโกลาหล ด้วยการมี 2 รัฐบาล แล้วทำการสู้รบกันเอง เพื่อแย่งชิงการควบคุมประเทศและความมั่งคั่งจากน้ำมัน
ในความวุ่นวายนั้น กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้เติบโตเข้มแข็งมากขึ้นที่ลิเบีย พวกเขาทำการยึดเมืองซีราเต แล้วเปิดฉากโจมตีแหล่งน้ำมัน โดยในสัปดาห์นี้พวกนักรบไอเอสได้โจมตีแหล่งส่งออกน้ำมันที่สำคัญไป 2 แห่ง
ในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว คาร์บอมบ์ 3 คัน ได้ถูกใช้ก่อเหตุโจมตีที่เมืองกุบบาห์ ในภาคตะวันออกของลิเบีย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 40 ราย เจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นการโจมตีเพื่อล้างแค้นสำหรับการโจมตีทางอากาศของอียิปต์ที่ถล่มพวกกลุ่มติดอาวุธชาวมุสลิม
บรรดาชาติมหาอำนาจตะวันตกกำลังผลักดันให้ฝ่ายต่างๆ ในลิเบียให้ช่วยกันหนุนหลังรัฐบาลสมานฉันท์แห่งชาติ ที่ทางยูเอ็นจะเป็นคนกลางช่วยจัดตั้งขึ้นมา เพื่อให้มาร่วมกันสู้กับกลุ่มไอเอส แต่ข้อตกลงดังกล่าวก็เจอกับการต่อต้านจากหลายฝ่ายในลิเบีย