อิหร่านโต้ไม่เคยยิงจรวดเฉียดเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐฯ จวกเป็นแผนคว่ำบาตรของมะกัน

รอยเตอร์ - อิหร่านปฏิเสธในวันพฤหัสบดี(31ธ.ค.) ว่ากองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติไม่ได้ยิงจรวดเฉียดใกล้เรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯเมื่อวันเสาร์(26ธ.ค.)ตามที่ถูกอเมริกากล่าวหา และประณามว่ามันคือแผนของวอชิงตันที่ประสงค์ออกมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อโครงการขีปนาวุธของพวกเขา

ข้อพิพาทนี้เกิดขึ้นแม้ว่าอิหร่านและ 6 ชาติมหาอำนาจ ในนั้นรวมถึงสหรัฐฯ เพิ่งบรรลุข้อตกลงประวัติศาสตร์กันเมื่อเดือนกรกฎาคม ในการปลดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ สหภาพยุโรปและสหประชาชาติต่ออิหร่าน แลกเปลี่ยนกับการที่เตหะรานตอบตกลงระงับโครงการนิวเคลียร์

"กองทัพเรือของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติไม่เคยฝึกซ้อมใดๆในช่องแคบฮอร์มุซตลอดทั้งสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สหรัฐฯอ้างว่าพวกเรายิงขีนาวุธและจรวด" เว็บไซต์ของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอ้างคำกล่าวของโฆษก "การเผยแพร่ข่าวอันเป็นเท็จภายใต้กรณีแวดล้อมปัจจุบัน คล้ายกับสงครามจิตวิทยา"

ก่อนหน้านี้สำนักข่าวเอ็นบีซีนิวส์ อ้างเจ้าหน้าที่ทหารสหรัฐฯที่ไม่ประสงค์เอ่ยนามบอกว่ากองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่านกำลังซ้อมรบกระสุนจริง และมีจรวดลูกหนึ่งพุ่งเฉียดเรือบรรทุกเครื่องบินแฮร์รี เอส. ทรูแมน ของอเมริกา ในระยะเพียง 1,500 หลา ระหว่างที่มันกำลังแล่นเข้าสู่อ่าวเปอร์เซียพร้อมกับเรือรบอื่นๆ

ในวอชิงตัน น.ท. คีล เรนีส โฆษกกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ (U.S. Central Command) ประณามว่าเหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นการยั่วยุอย่างรุนแรง เป็นพฤติกรรมที่ไม่ปลอดภัยและไร้ความเป็นมืออาชีพ

เรือของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่านหลายลำทดสอบยิงจรวด ในขณะที่หมู่เรือของสหรัฐฯ กำลังเข้ามาใกล้ “โดยแจ้งเตือนล่วงหน้าเพียง 23 นาที” โฆษกกองบัญชาการกลางสหรัฐฯกล่าวอ้าง

กองทัพอิหร่านและสหรัฐฯ เคยปะทะกันกลางอ่าวเปอร์เซียมาแล้ว โดยเฉพาะช่วงสงครามอิรัก-อิหร่านเมื่อทศวรรษ 1980 และการปฏิวัติอิสลามในอิหร่านเมื่อปี 1979

ตะวันตกสงสัยมานานต่อโปรแกรมนิวเคลียร์ของอิหร่าน ด้วยเชื่อว่ามีเป้าหมายสร้างระเบิดนิวเคลียร์ ข้อกล่าวหาที่ทางเตหะรานปฏิเสธ ขณะที่เหล่าคณะทูตหวังว่าข้อตกลงเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์นี้ จะคลี่คลายความไม่ไว้ใจกันที่มีมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษและลดความตึงเครียดในตะวันออกกลาง

อย่างไรก็ตามก่อนหน้าการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านอย่างเป็นทางการที่กำหนดไว้เป็นช่วงต้นปี 2016 ความตึงเครียดระหว่างสองฝ่ายก็กลับมาพุ่งสูงอีก

เหล่าผู้นำหัวแข็งของอิหร่านสั่งจับกุมเหล่านักเคลื่อนไหวหลายระลอก หลังกล่าวหาว่าคนเหล่านี้สนับสนุนการแทรกซึมของตะวันตก ขณะที่สหรัฐฯผ่านกฎหมายจำกัดสิทธิ์เดินทางไม่ต้องขอวีซ่าสำหรับคนที่เดินทางเยือนอิหร่านหรือเป็นพลเมืองอิหร่านถือสองสัญชาติ มาตรการที่เตหะรานตำหนิว่าเป็นการละเมิดข้อตกลง