เอพี / เอเจนซีส์ / MGR online – ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องก่อให้เกิดน้ำท่วมครั้งเลวร้าย และยังส่งผลให้ประชาชนมากกว่า 70,000 รายในประเทศปารากวัยต้องอพยพออกจากบ้านเรือนของตน
รายงานข่าวซึ่งอ้างคำแถลงของรัฐบาลปารากวัยระบุว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักหน่วงและต่อเนื่องนานหลายสัปดาห์ติดต่อกันในประเทศของตน ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำปารากวัยพุ่งสูงขึ้นเกือบแตะระดับ 7.2 เมตรเมื่อวันพุธ (23 ธ.ค.) ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นระดับที่เกือบเทียบเท่าสถิติสูงสุดที่ 7.72 เมตรของเมื่อปี ค.ศ. 1983
ด้านสำนักงานเลขาธิการการจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติของปารากวัยออกมาเปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้มีชาวปารากวัยราว 72,000 รายที่ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนของตน นับเฉพาะในกรุงอะซุนซิอ็องที่เป็นเมืองหลวงของประเทศเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ยังไม่รวมถึงประชาชนอีกเป็นจำนวนมากที่ต้องประสบชะตากรรมที่ไม่แตกต่างกันนี้ในเมืองอื่นๆ ของประเทศ
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า เหตุอุทกภัยครั้งเลวร้ายนี้ของปารากวัยอาจย่ำแย่ลงอีก เนื่องจากมีรายงานว่าน้ำในแม่น้ำปารานาและแม่น้ำอีกหลายสายของปารากวัยกำลังเพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว และใกล้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนในไม่ช้า ส่งผลให้บรรดาชุมชนแออัดที่ตั้งบ้านเรือนอยู่ในที่ต่ำตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะถูกน้ำท่วม
ก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐสภาของปารากวัยได้ให้ความเห็นชอบต่อการประกาศภาวะฉุกเฉินของรัฐบาล และตกลงเห็นชอบให้รัฐบาลปารากวัยเร่งเบิกจ่ายงบประมาณจำนวน 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับจัดหาความช่วยเหลือที่จำเป็นแก่ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในครั้งนี้