เอเจนซีส์ - เมื่อค่ำวานนี้ (16 ธ.ค.) บอร์ดบริหารสถาบันการเงินระหว่างประเทศ IMF ได้ออกคำตัดสินให้หนี้จำนวน 3 พันล้านดอลลาร์ ที่ยูเครนผิดนัดชำระกับรัสเซียถือเป็น “หนี้ผูกพันของภาครัฐ” ในขณะที่มอสโกประกาศ หากรัฐบาลยูเครนไม่ตกลงชำระภายในวันที่ 20 ธันวาคมที่จะถึงนี้ ทางมอสโกจะยื่นฟ้องทางกฎหมายกับยูเครน
RT รายงานวันนี้ (17) ว่า แถลงการณ์ของสถาบันการเงินระหว่างประเทศ IMF ออกมาว่า “ในกรณีพันธบัตรยูโรบอนด์ ทางรัสเซียได้อ้างว่าเป็นข้อตกลงที่เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการในระดับภาครัฐ พร้อมกันนั้นยังได้แสดงหลักฐานทั้งหมดสนับสนุนการกล่าวอ้างของฝ่ายรัสเซีย”
ทั้งนี้ สื่อรัสเซียรายงานว่า มอสโกได้ร้องต่อ IMF ให้ทำการตัดสินถึงประเด็นข้อพิพาทระหว่างเคียฟและมอสโก หลังจากฝ่ายเคียฟได้ใช้ความพยายามอ้างว่า หนี้ที่เกิดขึ้นจำนวนนี้ถือเป็นหนี้เอกชน และปฎิเสธที่จะยอมรับแผนปรับสภาพโครงสร้างหนี้ที่รัสเซียกำหนด และสื่อรัสเซียยังรายงานต่อว่า คำตัดสินชี้ขาดของ IMF ทำให้ยูเครนมีสิทธิ์ที่อาจต้องเสี่ยงการผิดชำระหนี้ได้หลังจากเส้นตายวันที่ 20 ธันวาคมผ่านไป
สื่อรัสเซียรายงานเพิ่มเติมว่า การชี้ขาดของ IMF มีผลบังคับใช้ทันทีหลังการประกาศในค่ำวันพุธ (16) และไม่มีการประท้วงออกมาจากฝั่งยูเครนออกมา สื่อรัสเซีย สำนักข่าวTASS รายงาน
ทั้งนี้ ในข้อตกลงเดือนธันวาคม 2013 ทางมอสโกได้ตัดสินใจซื้อพันธบัตรยูโรบอนด์ของยูเครนที่มีมูลค่าทั้งหมดราว 15 พันล้านดอลลาร์ (โดยก้อนแรกอยู่ที่ 3 พันล้านดอลลาร์) นั้นเป็นการลงนามร่วมกันระหว่างอดีตประธานาธิบดียูเครน วิกเตอร์ ยานูโควิช และประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ถึงแม้ว่าตัวสัญญาจะเป็นการจัดเตรียมร่วมกันในระดับเจ้าหน้าที่ของทั้งสองชาติก็ตาม
สื่อรัสเซียรายงานต่อว่า พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงระดับนโยบายเกิดขึ้นในสถาบันการเงินระหว่างประเทศ IMF เมื่อพบว่าในวันอังคาร (15) ล่าสุด ทาง IMF ได้ประกาศแก้ไขข้อกำหนดที่แต่เดิมกำหนดให้ทาง IMF ห้ามไม่ให้หน่วยงานให้การช่วยเหลือปล่อยเงินกู้แก่ประเทศที่มีปัญหาผิดนัดชาระหนี้ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้แก่มอสโกเป็นอันมาก เพราะทางมอสโกเห็นว่าจากการแก้ไขกฎข้อนี้จะสามารถเปิดโอกาสให้ทางสถาบันการเงินระหว่างประเทศ IMF ยังคงสามารถให้การช่วยเหลือยูเครนต่อไปได้ ถึงแม้ยูเครนจะไม่คืนหนี้ค้างจ่ายระหว่างรัฐให้กับทางมอสโกก็ตาม
