xs
xsm
sm
md
lg

“ฮิลลารี คลินตัน” เผยแผนเด็ดต้านก่อการร้าย IS

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ - ในทัวร์หาเสียงที่เมืองมินนิอาโปลิส รัฐมินนิโซตา เมื่อวานนี้ (15 ธ.ค.) ฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครแถวหน้าจากพรรคเดโมแครต ประกาศแผนการจะหยุดกลุ่มก่อการร้าย IS นอกประเทศ และรวมไปถึงสกัดพลเมืองสหรัฐฯที่ต้องการทำก่อการร้ายเหมือนเช่นกับที่เกิดขึ้นในเมืองซานเบอร์นาดิโน รัฐแคลิฟอร์เนีย

สื่อธุรกิจ IBT รายงานเมื่อวันนี้ (16) ว่า แผนการต่อต้านก่อการร้ายของอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ฮิลลารี คลินตัน ประกอบไปด้วย 1. การใช้การโจมตีทางอากาศในซีเรีย 2. การบังคับใช้มาตรการตรวจสอบวีซ่าทุกคนที่ร้องขอ ซึ่งมีประวัติเคยใช้เวลาอยู่ในดินแดนภายใต้อิทธิพลของกลุ่มก่อการร้าย IS และ 3. การเพิ่มมาตรการให้กับกฎหมายควบคุมการอนุญาตการใช้อาวุธปืน ซึ่งรวมไปถึงการสั่งห้ามการซื้อและขายอาวุธปืนอานุภาพสูง

ในการปราศรัยที่เมืองมินนิอาโปลิส รัฐมินนิโซตา เมื่อวานนี้ (15) ฮิลลารี กล่าวว่า “ถือเป็นเรื่องจำเป็นที่เราต้องทำให้แน่ใจว่าพวกญิฮัดจะไม่สามารถหาอุปกรณ์ที่พวกเขาต้องการใช้เพื่อลงมือก่อการร้ายฆ่าคน ซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงสามัญสำนึกของพวกพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสที่ไม่ยอมทำให้ผู้ก่อการร้ายสามารถหาซื้ออาวุธปืนเพื่อออกไปยิงคนได้ยากขึ้น เพราะหากคุณเป็นอันตรายต่อการเดินทางอากาศ คุณก็อันตรายเกินกว่าที่จะสามารถหาซื้อปืนไว้ได้ในความครอบครองได้ และเราควรจะยืนยัน และยืนยันต่อการตรวจสอบประวัติอย่างละเอียด และทำการปิดช่องโหว่ที่เปิดโอกาสให้ผู้ก่อการร้ายสามารถหาซื้ออาวุธได้ทางออนไลน์ หรือในงานแสดงปืน และดิฉันคิดว่าคงถึงเวลาแล้วที่เราควรหวนกลับมาห้ามการจำหน่ายอาวุธปืนอานุภาพสูงอีกครั้ง”

ทั้งนี้ ในมาตรการตรวจเข้มวีซ่าเข้าเมือง คลินตันได้เอ่ยถึงโปรแกรมวีซ่าที่อนุญาตให้ประเทศที่มีความปลอดภัยสูงสามารถเดินทางเข้าสหรัฐฯได้โดยไม่ต้องยื่นขอล่วงหน้า ซึ่งมีทั้งในยุโรปและเอเชีย โดยเธอได้ชี้ว่า ยกเว้นสำหรับเจ้าหน้าที่การทูตและเจ้าหน้าที่ด้านบรรเทาทุกข์แล้ว คนที่เดินทางไปยังประเทศที่ขึ้นชื่อว่ามีการก่อการร้าย หรือมีสงครามที่มีนักรบต่างชาติเข้าร่วม ภายใน 5 ปีล่าสุด สมควรที่จะได้รับการตรวจสอบประวัติอย่างเป็นทางการอย่างละเอียดโดยไม่คำนึงว่าคนผู้นี้จะถือพาสปอร์ตสัญชาติอะไร

นอกจากนี้ คลินตันยังได้เรียกร้องให้ซิลิกอนวัลเลย์ร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐฯ ในการต่อต้านก่อการร้ายให้มากขึ้นด้วยการสอดส่องบุคคลที่ต้องสงสัยที่มีพฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดียในการก่อการร้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น