เอเอฟพี - รัฐบาลสกอตแลนด์ประกาศปลด “โดนัลด์ ทรัมป์” ออกจากตำแหน่งทูตธุรกิจ เมื่อวันพุธ (9 ธ.ค.) ขณะที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเมืองแอเบอร์ดีน (Aberdeen) ก็มีมติเพิกถอน “ปริญญากิตติมศักดิ์” ที่เคยมอบให้แก่มหาเศรษฐีชาวอเมริกันรายนี้ หลังทั่วโลกออกมารุมประณามเรื่องที่ ทรัมป์ เรียกร้องห้ามชาวมุสลิมเดินทางเข้าสหรัฐฯ
ขณะเดียวกัน ชาวอังกฤษกว่า 358,000 คนก็ได้เข้าชื่อเรียกร้องให้รัฐบาลสั่งห้ามผู้สมัครเต็งหนึ่งของพรรครีพับลิกันเดินทางเข้าเมืองผู้ดี
โดนัลด์ ทรัมป์ วัย 69 ปี ซึ่งร่ำรวยจากการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นเจ้าของสนามกอล์ฟในสกอตแลนด์ และยังมีญาติมิตรอาศัยอยู่ที่นั่นด้วย
“คำพูดของคุณทรัมป์เมื่อไม่กี่วันก่อน แสดงให้เห็นว่าเขาไม่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเป็นทูตธุรกิจให้แก่สกอตแลนด์อีกต่อไป” โฆษกรัฐบาลท้องถิ่นสกอตแลนด์แถลง พร้อมประกาศปลด ทรัมป์ ออกจากตำแหน่งทูต “โกลบอลสก็อต” ซึ่งเขาทำหน้าที่มาตั้งแต่ปี 2006
ทรัมป์ เสนอให้วอชิงตัน “ห้ามชาวมุสลิมเดินทางเข้าสหรัฐฯ โดยสิ้นเชิง จนกว่าผู้แทนประเทศของเราจะหาคำตอบได้ว่าเกิดอะไรขึ้น” จากกรณีสองผัวเมียมุสลิมก่อเหตุกราดยิง 14 ศพที่เมืองซานเบอร์นาดิโน รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.
มหาวิทยาลัย โรเบิร์ต กอร์ดอน ในเมืองแอเบอร์ดีน ประกาศเพิกถอนปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ด้านการจัดการธุรกิจที่เคยมอบให้แก่ ทรัมป์ เมื่อปี 2010 “เนื่องจากคำพูดที่ไม่สอดคล้องกับค่านิยมพื้นฐานของมหาวิทยาลัย”
มหาเศรษฐีปากเปราะซึ่งมีคะแนนนำโด่งในศึกชิงผู้แทนพรรครีพับลิกัน และมีแนวโน้มจะได้เป็นตัวแทนพรรคลงชิงชัยในสนามเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2016 ยังอ้างว่าชุมชนบางแห่งในกรุงลอนดอนถูกบ่มเพาะแนวคิดสุดโต่งเสียจนตำรวจอังกฤษยังไม่กล้าเข้าไปยุ่มย่าม เพราะ “รักตัวกลัวตาย”
“การที่ โดนัลด์ ทรัมป์ พูดว่ามีชุมชนซึ่งจัดเป็นพื้นที่อันตราย (no-go areas) ในลอนดอน ผมว่าเขากำลังแสดงความโง่เขลาอย่างไม่น่าเชื่อ และหมดสิ้นคุณสมบัติที่จะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ” โบริส จอห์นสัน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน บอกกับสำนักข่าวไอทีวี
รัฐสภาอังกฤษจะต้องมีการอภิปรายเรื่องห้าม ทรัมป์ เดินทางเข้าประเทศ เช่นเดียวกับข้อร้องเรียนอื่นๆ ที่มีประชาชนเช้าชื่อเกินกว่า 100,000 คนขึ้นไป