เอเอฟพี - ขณะที่ยังคงมึนงงกับการหายไปอย่างไร้ร่องรอยของเที่ยวบิน MH370 เวลานี้เจ้าหน้าที่สนามบินมาเลเซียต้องเผชิญกับปริศนาครั้งใหม่ ซึ่งเป็นปัญหาในทางตรงข้าม หลังพบเครื่องบินโบอิ้ง 747 จำนวน 3 ลำ ถูกจอดทิ้งไว้โดยไม่มีผู้อ้างความเป็นเจ้าของ ณ ท่าอากาศยานหลักของประเทศ
ผู้บริหารท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ (KLIA) ถึงขั้นต้องลงประกาศโฆษณาในหนังสือพิมพ์มาเลเซียฉบับหนึ่ง เพื่อตามหาเจ้าของเครื่องบิน 747-200F ทั้ง 3 ลำ ที่จอดทิ้งไว้ที่สนามบินกัวลาลัมเปอร์
“หากคุณไม่มาเอาเครื่องบินไปภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันที่ออกประกาศนี้ เราขอสงวนสิทธิ์สำหรับขายหรือจำหน่ายจ่ายโอนเครื่องบินดังกล่าวภายใต้กฎข้อบังคับของมาเลเซีย” โฆษณาที่ตีพิมพ์ลงหนังสือพิมพ์เดอะสตาร์ฉบับเมื่อวันจันทร์ (7 ธ.ค.) ระบุ
นายไซนอล โมฮัมหมัด อิซา ผู้จัดการทั่วไปของมาเลเซีย แอร์พอร์ตส ผู้บริหารสนามบิน บอกว่า ทางท่าอากาศยานได้พยายามติดไปยังเจ้าของเครื่องบินรายสุดท้ายเท่าที่มีข้อมูลแล้ว โดยทั้ง 3 ลำเป็นของต่างชาติ แต่ไม่ได้รับการติดต่อกลับ ซึ่งเชื่อว่าอาจมีเหตุผลบางประการ
“ผมไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ตอบกลับ อาจมีหลายเหตุผล บางทีอาจเป็นเพราะพวกเขาไม่มีเงินดำเนินธุรกิจต่อ” ไซนอล กล่าว พร้อมเผยว่า นอกเหนือจากความต้องการเห็นผู้ออกมากล่าวอ้างเป็นเจ้าของทั้ง 3 ลำแล้ว ทางสนามบินยังประสงค์เรียกเก็บเงินค่าลงจอด จอดเครื่องและค่าบริการอื่น ๆ จากเจ้าของด้วย
ทั้งนี้ หากไม่ได้รับเงินส่วนนี้ภายในวันที่ 21 ธันวาคม เครื่องบินจะถูกนำออกประมูลหรือขายต่อเพื่อหาเงินมาชดเชยรายจ่ายค้างชำระที่มีอยู่
ในประกาศโฆษณาระบุเลขทะเบียนของเครื่องบินทั้ง 3 ลำ ประกอบด้วย TF-ARM, TF-ARN และ TF-ARH โดย 2 ลำเป็นเครื่องบินโดยสารและอีกหนึ่งลำเป็นเครื่องบินขนส่งสินค้า
ไซนอล เผยว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ที่สนามบิน โดยช่วงทศวรรษที่ผ่านมาก็เคยมีเครื่องบินถูกจอดทิ้งไว้บ้างเช่นกัน แต่ทั้งหมดเป็นลำที่มีขนาดเล็กกว่า ทั้งนี้ มีอยู่ลำหนึ่งถูกทิ้งไว้ช่วงทศวรรษ 1990 ก่อนท้ายที่สุดได้ถูกซื้อไปปรับแต่งเป็นร้านอาหารย่านชานกรุงกัวลาลัมเปอร์
สนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ คือ ต้นทางของเที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลนส์ ซึ่งสูญหายไปพร้อมกับผู้โดยสารและลูกเรือ 239 คน หลังจากเทคออฟเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2014 และยังคงเป็นหนึ่งในปริศนาด้านการบินที่มืดมนที่สุด
ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงกลางปี มาเลเซีย ยืนยันว่า ชิ้นส่วนปีกที่พบบนเกาะรีอูนียง ในมหาสมุทรอินเดีย เป็นของเครื่องบินลำดังกล่าว ทว่า นับตั้งแต่นั้นก็ยังไม่พบเศษซากอื่น ๆ เพิ่มเติม แม้ปฏิบัติการค้นหาตามท้องทะเลที่นำโดยออสเตรเลียจะดำเนินการอย่างเข้มข้นก็ตาม