รอยเตอร์ - กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ในวันจันทร์ (30 พ.ย.) ดำเนินการตามคาด ด้วยการรับรองเงินหยวนของจีนขึ้นชั้นเทียบเท่ากับสกุลเงินตราชั้นนำอื่นๆ ของโลก ในตะกร้ามาตรวัดอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุนแห่งนี้ ถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญในแผนรณรงค์ของปักกิ่งที่ประสงค์เป็นที่ยอมรับในฐานะ “มหาอำนาจเศรษฐกิจโลก”
การตัดสินของบอร์ดบริหารไอเอ็มเอฟในการเพิ่มเติมหยวน หรือรู้จักกันในอีกชื่อคือ “เหรินหมินปี้” เข้าสู่ตะกร้าสกุลเงินกลางของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (SDR) เคียงข้างดอลลาร์ ยูโร ปอนด์สเตอร์ลิงและเยน ถือเป็นหลักชัยสำคัญในความพยายามบูรณาการตนเองของจีนในการเข้าสู่ระบบการเงินโลกและเป็นการยอมรับถึงความก้าวหน้าในแผนปฏิรูปของพวกเขา
เพื่อให้ตรงตามบรรทัดฐานของไอเอ็มเอฟ ปักกิ่งได้ดำเนินการปฏิรูปอย่างเกรียวกราวในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ในนั้นรวมถึงเปิดทางให้ต่างชาติเข้าถึงตลาดเงินจีนได้สะดวกขึ้น ออกตราสารหนี้ถี่ขึ้นและขยายชั่วโมงซื้อขายเงินหยวน
นางคริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ เช่นเดียวกับเหล่าผู้เชี่ยวชาญในกองทุน ต่างสนับสนุนความเคลื่อนไหวดังกล่าวของจีน และเธอแสดงจุดยืนชัดเจนคาดหมายว่าปักกิ่งจะไม่หยุดอยู่แค่นี้
“การเดินหน้าความพยายามเหล่านี้อย่างเข้มข้นและไม่ลดละ จะนำมาซึ่งกองทุนการเงินระหว่างประเทศและระบบการเงินที่กำยำขึ้น ซึ่งจะสนับสนุนการเติบโตและเสถียรภาพของจีนและเศรษฐกิจโลกตามลำดับ” เธอกล่าวในถ้อยแถลง
การผนวกหยวนเข้าสู่ตะกร้าสกุลเงินกลางของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ถือเป็นความเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ครั้งใหญ่ แต่มีความหมายโดยนัยต่อตลาดการเงินแบบทันทีทันใดแค่เล็กน้อย อย่างไรก็ตามอีกด้านหนึ่ง มันก็ถือเป็นครั้งแรกที่มีการเพิ่มเติมสกุลเงินเข้าสู่ตะกร้าเงิน SDR และนับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดขององค์ประกอบ SDR ในรอบ 35 ปี
การอนุมัติให้เป็นส่วนหนึ่งของ SDR จะมีผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม 2016 ขณะที่ครั้งสุดท้ายที่มีการปรับเปลี่ยนตะกร้าเงินคือเมื่อปี 2000 เมื่อครั้งที่เงินยูโรเข้ามาแทนที่เงินดอยช์มาร์กของเยอรมนีและเงินฟรังก์ของฝรั่งเศส
อัตราส่วนของ SDR ในขณะนี้ เงินดอลลาร์สหรัฐฯมีสัดส่วน 41.9% เงินยูโร 37.4% เงินปอนด์สเตอร์ลิงของอังกฤษ 11.3% และเงินเยนของญี่ปุ่น 9.4% แต่ด้วยสูตรใหม่ สัดส่วนของยูโรจะลดลงสู่ 30.93% ด้านปอนด์สเตอร์ลิงและเยนที่จะลดลงเช่นกัน ผิดกับดอลลาร์ที่จะยังคงเดิม
เพื่อจะได้เข้าสู่ตะกร้าเงิน SDR หยวนจำเป็นต้องเป็นไปตามบรรทัดฐานของไอเอ็มเอฟ ด้านการใช้สอยอย่างเสรีหรือถูกใช้สำหรับชำระหนี้ระหว่างประเทศอย่างกว้างขวาง และใช้ในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอย่างแพร่หลาย มาตรฐานที่จีนเคยพลาดมาแล้วในการพิจารณาทบทวนหนสุดท้ายเมื่อปี 2010
มีความเป็นไปได้ว่าการผนวกหยวนเข้าสู่ตะกร้าสกุลเงินกลาง จะกระพืออุปสงค์สกุลเงินจีนและสินทรัพย์ต่างๆ ในรูปแบบของหยวน ขณะที่เหล่าธนาคารกลางชาติต่างๆและพวกผู้จัดการกองทุนต่างประเทศจะปรับเปลี่ยนหลักทรัพย์เพือการลงทุนสะท้อนสถานะใหม่ของหยวน
นักวิเคราะห์ด้านค่าเงินคาดหมายว่าการได้รับความเห็นชอบจากไอเอ็มเอฟครั้งนี้อาจกระพืออุปสงค์หยวนมากกว่า 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า และทำให้สัดส่วนของการถือครองหยวนในฐานะเงินสำรองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นราวๆ 5% แซงแคนาเดียนและดอลลาร์ออสเตรเลีย