เอเอฟพี - เหล่าขาชอปในอังกฤษและสหรัฐฯ ต่างออกไปจับจ่ายเลือกซื้อสินค้าในวัน “แบล็กฟรายเดย์” ซึ่งเป็นมหกรรมสินค้าลดราคาครั้งใหญ่ช่วงปลายปี ขณะที่เว็บไซต์ “แอมะซอน” มียอดขายในเมืองผู้ดีพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากคนหันมานิยมซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ตมากขึ้น
ชาวเมืองผู้ดีจำนวนมากหันมาท่องอินเทอร์เน็ตเพื่อเลือกซื้อสินค้าสำหรับเทศกาลคริสต์มาส จนทำให้แหล่งช้อปปิ้ง “ไฮสตรีท” ตามเมืองใหญ่ๆ ทั่วอังกฤษมีผู้คนบางตากว่าทุกปี
แอมะซอน แถลงว่า ข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 21.10 น. ตามเวลาท้องถิ่น (04.10 น.วันนี้ตามเวลาในไทย) มีสินค้าถูกสั่งซื้อไปแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ล้านชิ้นผ่านเว็บไซต์แอมะซอนในอังกฤษ ทำลายสถิติแบล็กฟรายเดย์ปีที่แล้ว ซึ่งมีสินค้าถูกจำหน่ายไปราว 5.5 ล้านชิ้น หรือประมาณ 64 ชิ้นต่อวินาที
“นับเป็นปีที่ 2 ต่อเนื่องที่ลูกค้าในอังกฤษให้ความสนใจอย่างล้นหลามต่อข้อเสนอดีๆ และผลิตภัณฑ์ชั้นเยี่ยมที่เรานำมาจำหน่ายในเทศกาลแบล็กฟรายเดย์” คริสโตเฟอร์ นอร์ธ ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการของเว็บไซต์ Amazon.co.uk ระบุ
Experian ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยพฤติกรรมการเสิร์จข้อมูลออนไลน์ ประเมินว่า ยอดขายสินค้าในอังกฤษช่วงแบล็กฟรายเดย์จะมีมูลค่าพุ่งทะลุ 1,000 ล้านปอนด์เป็นครั้งแรก ขณะที่ ไบรอัน โรเบิร์ตส นักวิเคราะห์จาก Kantar Ratail ระบุว่า บรรยากาศของแบล็กฟรายเดย์ในย่านใจกลางเมืองและห้างสรรพสินค้าต่างๆ ในปีนี้ ค่อนข้างเงียบเหงา
ห้างสรรพสินค้า จอห์น ลิวอิส และ เดอเบนแฮมส์ บนถนนออกซฟอร์ดในกรุงลอนดอนเปิดให้บริการเร็วกว่าปกติ และสั่งเพิ่มพนักงานอีก 400 คนเพื่อเตรียมรับคลื่นมหาชนที่คาดว่าจะแห่เข้าไปจับจ่ายซื้อสินค้าเหมือนเช่นทุกปี แต่เมื่อประตูห้างเปิดกลับมีนักช้อปแค่ไม่กี่สิบคนเดินเข้าไปเลือกเครื่องใช้ไม้สอยกันอย่างเงียบๆ ท่ามกลางกองทัพพนักงานห้างและสื่อมวลชนที่มารอทำข่าว
ในทางกลับกัน เว็บไซต์จำหน่ายสินค้ากลับได้รับความนิยมอย่างสูง โดย very.co.uk รายงานว่า มีนักช้อปแห่เข้าชมเว็บไซต์ตั้งแต่เวลา 7.00 น. ซึ่งเริ่มมีการเปิดจำหน่ายสินค้าราคาพิเศษ ขณะที่เทสโกก็ต้องขึ้นคำเตือนว่า การเลือกซื้อสินค้าอาจใช้เวลานานกว่าปกติ เนื่องจากมีผู้ใช้บริการเว็บไซต์จำนวนมาก
ด้านสมาพันธ์ผู้ค้าปลีกแห่งชาติสหรัฐฯ (NFR) ก็ออกมาทำนายว่า จะมีชาวอเมริกันออกไปจับจ่ายซื้อสินค้าในเทศกาลแบล็กฟรายเดย์เกือบ 136 ล้านคน ทั้งตามห้างร้านและเว็บไซต์ต่างๆ
“มีคนไปเข้าคิวรอซื้อสินค้ายาวเหยียดในวันขอบคุณพระเจ้า และแบล็กฟรายเดย์ ส่วนยอดขายสินค้าออนไลน์ก็สูงเป็นประวัติการณ์เช่นกัน” แมทธิว เชย์ ประธานและซีอีโอ NFR ระบุในถ้อยแถลง
NRF ประเมินว่า จะมีผู้คนจับจ่ายซื้อของในช่วงหยุดยาว 4 วันประมาณ 135.8 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 1.6% โดยจะมีการแถลงตัวเลขอย่างเป็นทางการในวันอาทิตย์นี้ (29)
ต้นกำเนิดของคำว่า “แบล็กฟรายเดย์” ยังไม่มีใครทราบแน่ชัด บางคนบอกว่าคงจะหมายถึงการที่บรรดานักช้อปเบียดเสียดกันเลือกซื้อสินค้า แต่คำอธิบายที่แพร่หลายกว่าก็คือ กำไรมหาศาลซึ่งจะทำให้ผลประกอบการของห้างร้านมีรายได้มากกว่ารายจ่าย หรือเป็น “ตัวดำ” ในช่วงนี้
หลังจาก แบล็กฟรายเดย์ ผ่านพ้นไปก็จะตามมาด้วย “ไซเบอร์มันเดย์” ซึ่งผู้คนที่เริ่มกลับเข้าทำงานตามปกติยังคงใช้จ่ายผ่านโลกออนไลน์ โดย NRF คาดว่าจะมีชาวอเมริกันจับจ่ายสินค้าในวันดังกล่าวประมาณ 184 ล้านคน
ธุรกิจค้าปลีกมีส่วนขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ได้ถึง 70% ทั้งยังเป็นตัวชี้วัดอุปสงค์ของผู้บริโภค ทว่าความเฟื่องฟูของธุรกิจออนไลน์ก็ทำให้ปรากฏการณ์แบล็กฟรายเดย์เริ่มที่จะจืดจางลงไปในช่วง 2-3 ปีมานี้