เอเจนซีส์ / MGR online - เกิดเหตุฝนตกหนักในประเทศกาตาร์เมื่อวันพุธ (25 พ.ย.) เป็นเหตุให้รัฐเศรษฐีอาหรับแห่งนี้ต้องเผชิญกับเหตุน้ำท่วมฉับพลันครั้งเลวร้าย โดยรายงานข่าวล่าสุดยืนยัน ฝนที่ตกลงมาครั้งล่าสุดเพียงไม่กี่ชั่วโมงในกาตาร์ มีปริมาณน้ำฝนรวม สูงกว่าค่าเฉลี่ยของฝนที่ตกตลอดทั้งปีในประเทศนี้
รายงานข่าวระบุว่า ถนนหลายสายในกรุงโดฮาที่เป็นเมืองหลวงของกาตาร์ต้องถูกปิดการใช้งานชั่วคราวในวันพุธ (25) เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนตกลงมาท่วมขัง จนบรรดาผู้ขับขี่ยานยนต์ชนิดต่างๆ แทบไม่สามารถขับรถของตนฝ่าไปได้ ส่วนทางกระทรวงมหาดไทยของกาตาร์ออกคำเตือนให้ประชาชนใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง
ขณะที่สถานศึกษาและบรรดาห้างสรรพสินค้าต่างก็ต้องปิดทำการจากผลพวงของเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดจากฝนตกหนักในครั้งนี้เช่นเดียวกัน รวมถึง สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาในกรุงโดฮาที่ประกาศปิดทำการจนถึงสัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ดี มีรายงานว่าพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากฝนตกหนักและน้ำท่วมในกาตาร์คราวนี้ คือ ที่ ท่าอากาศยานนานาชาติฮาหมัดในกรุงโดฮา รวมถึงพื้นที่โดยรอบ ซึ่งสามารถวัดปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาได้เกือบ 80 มิลลิเมตร ตามข้อมูลของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งกาตาร์ และถือเป็นปริมาณน้ำฝนโดยเฉลี่ยที่ตกในกาตาร์ในรอบ 1 ปีซึ่งอยู่ที่ราว 74 มิลลิเมตร
ด้านผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในกาตาร์ต่างพากันแชร์ภาพการรั่วซึมของน้ำฝนภายในอาคารสนามบินนานาชาติฮาหมัดที่เพิ่งเปิดใช้งานเมื่อปีที่แล้ว และมีมูลค่าการก่อสร้างสูงถึงกว่า 17,000 ล้านดอลลาร์
แม้จะถูกระบุว่า เป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดจากฝนตกและน้ำท่วมคราวนี้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบการควบคุมการจราจรทางอากาศในสนามบินนานาชาติฮาหมัดยืนยันว่าไม่มีเที่ยวบินถูกยกเลิกแม้แต่เที่ยวบินเดียวจากเหตุผลด้านสภาพอากาศที่เลวร้าย
ทั้งนี้ กาตาร์ซึ่งได้รับเลือกให้ทำหน้าที่เจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี ค.ศ. 2022 ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในดินแดนที่มีอากาศร้อนจัดที่สุดของโลกโดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน และเป็นเหตุให้การจัดศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในกาตาร์ต้องย้ายไปจัดแข่งขันกันในช่วงเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม แทนการจัดแข่งขันในช่วงกลางปีเหมือนศึกฟุตบอลโลกก่อนหน้านี้