รอยเตอร์ - ประธานาธิบดี ฟรังซัวส์ ออลลองด์ กล่าวระหว่างเยือนทำเนียบขาวในวันอังคาร (24 พ.ย.) ว่า ฝรั่งเศส และสหรัฐฯ เห็นพ้องยกระดับโจมตีเป้าหมายนักรบรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซีเรียและอิรัก ตามหลังเหตุโจมตีนองเลือดศุกร์ 13 ในกรุงปารีส ขณะที่เบลเยียมออกหมายจับสากลชายอีกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุวินาศกรรมเมืองหลวงของฝรั่งเศส
นายออลลองด์ กล่าวระหว่างแถลงข่าวร่วมกับประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ที่ทำเนียบขาวว่าผู้นำทั้งสองคนเล็งเห็นถึงความสำคัญถึงการปิดชายแดนตุรกี เพื่อจำกัดพวกหัวรุนแรงเคลื่อนไหวเข้ามาในยุโรป
ส่วน นายโอบามา เน้นถึงความเป็นพันธมิตรยาวนานระหว่างฝรั่งเศส และสหรัฐฯ รวมถึงสัญญาว่าจะเพิ่มความพยายามในการต่อสู้ก่อการร้ายเคียงข้างพันธมิตรยุโรปอื่น ๆ “ในฐานะอเมริกันชน เราจะยืนหยัดอยู่เคียงข้างเพื่อนของเราทั้งในช่วงเวลาที่ดีและร้าย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม” โอบามา กล่าว
สัปดาห์นี้ประธานาธิบดี ออลลองด์ พยายามระดมแรงสนับสนุนสำหรับเพิ่มความร่วมมือในระดับนานาชาติมากขึ้นเพื่อทำลายพวกรัฐอิสลาม (ไอเอส) โดยที่เขามีกำหนดเดินทางเยือนมอสโกในวันพฤหัสบดี (26 พ.ย.)
“เรามาอยู่ที่นี่ในวันนี้ เพื่อประกาศว่าสหรัฐฯ และฝรั่งเศส ยืนหยัดสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวเพื่อพิพากษาพวกก่อการร้ายกลุ่มนี้และเพื่อปกป้องประเทศของเรา” โอบามา กล่าว พร้อมเรียกไอเอสว่า “กลุ่มก่อการร้ายปาเถื่อน มีอุดมการณ์เข่นฆ่าที่เสี่ยงเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อเราทุกคน เราจะไม่อดทนกับคนเหล่านี้ พวกเขาต้องถูกทำลายและเราจะทำมันร่วมกัน”
ออลลองด์ บอกว่า ฝรั่งเศส และสหรัฐฯ เห็นพ้องยกระดับโจมตีพวกไอเอสในซีเรียและอิรัก แต่ย้ำว่าปารีสจะไม่ส่งทหารภาคพื้นเข้าไปยังซีเรียเพื่อสู้รบกับนักรบกลุ่มนี้
การเดินทางพบปะกับโอบามาของนายออลลองด์ มีขึ้นตามหลังเหตุวินาศกรรมกรุงปารีสคร่าชีวิตผู้คน 130 ศพ บริเวณสนามกีฬาแห่งชาติ โรงแสดงคอนเสิร์ต บาร์ และร้านอาหารย่านใจกลางเมืองหลวง ซึ่งพวกไอเอสอ้างความรับผิดชอบ
โอบามาบอกว่าเขาและนายออลลองด์ เห็นพ้องถึงความจำเป็นที่ต้องเพิ่มความพยายามให้มากยิ่งขึ้นในการต่อสู้กับไอเอส “สหรัฐฯให้ความช่วยเหลือปฏิบัติการโจมตีในซีเรียของฝรั่งเศสเมื่อเร็ว ๆ นี้ และเรากำลังจะยกระดับความร่วมมือนั้น” เขากล่าว “เราจะเดินหน้าทำทุกอย่างภายใต้อำนาจของเราเพื่อปกป้องประเทศของเรา เราจะเป็นผู้ชนะ และไอเอสจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้”
นอกจากนี้แล้ว โอบามายังกล่าวถึงประเด็นวิกฤตซีเรีย ว่า ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของรัสเซียที่มีเป้าหมายถล่มกบฏสายกลาง รังแต่จะเป็นการสนับสนุนรัฐบาลของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ส่วน นายออลลองด์ เสริมว่า การเปลี่ยนถ่ายนายอัสซาดออกจากอำนาจควรเริ่มต้นอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ความเคลื่อนไหวของนายออลลองด์ มีขึ้นท่ามกลางความคืบหน้าด้านการสืบสวนเหตุวินาศกรรม 13 พฤศจิกายน โดยล่าสุดในวันอังคาร (24 พ.ย.) ทางการเบลเยียมออกหมายจับสากลชายคนหนึ่งที่ถูกพบเห็นอยู่กับ ซาลาห์ อับเดซาลาม พลเมืองเบลเยียม ที่ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับเหตุสังหารหมู่กรุงปารีส ก่อนหน้าที่เขาจะลงมือโจมตี
ถ้อยแถลงของอัยการเบลเยียม บอกว่า นายโมฮาเมด อาบรินี วัย 30 ปี ถูกกล้องจับภาพไว้ได้ว่าอยู่กับ อับเดซาลาม ที่สถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่งทางเหนือของฝรั่งเศส 2 วันก่อนหน้าเหตุโจมตี โดยอาบรินี ขับรถยนต์เรโนลต์ คลีโอ ที่ต่อมาคนร้ายใช้รถยนต์คันนี้โจมตีเมืองหลวงของฝรั่งเศส โดยในหมายจับบรรยายนายอาบรินีว่าเป็นบุคคลอันตรายและบางทีอาจมีอาวุธ
นอกจากนี้ ทางอัยการยังได้ให้รายละเอียดผู้ต้องสงสัย 2 คน ที่ถูกตั้งข้อหากระทำการก่อการร้ายไปก่อนหน้านี้ พร้อมเผยว่ามีบุคคลรายที่ 5 ซึงไม่เปิดเผยชื่อก็ถูกตั้งข้อหาเช่นกันในวันอังคาร (24 พ.ย.)
ก่อนหน้านี้ มีการเปิดเผยชื่อผู้ถูกตั้งข้อหาเพียง 2 คน ได้แก่ โมฮัมเมด อัมรี และ ฮัมซา อัตตู โดยพวกเขายอมรับสารภาพว่า ขับรถจากเบลเยียมไปยังกรุงปารีส เพื่อไปรับอับเดซาลาม ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากพี่ชายของอับเดซาลาม จุดชนวนระเบิดฆ่าตัวตายระหว่างปฏิบัติการโจมตี แต่พวกเขาให้การปฏิเสธโดยอ้างว่าไม่รู้ว่าอับเดซาลามทำอะไรในฝรั่งเศส