เอเจนซีส์ – ล่าสุดวันนี้(21) พบคลังแสงอาวุธที่มีทั้งระเบิดและอาวุธเคมีในบ้านของคนร้ายวางแผนโจมตีปารีสในย่านโมเลนเบค( Molenbeek) หลังจากมีปฎิบัติการบุกค้นในคืนวันศุกร์(20) ในขณะที่บรัสเซลส์ประกาศ “ปิดตายประเทศ” ระบบรถไฟเมโทรขนส่งสาธารณะปิดให้บริการ ห้ามใช้ลานจอดรถ ห้างสรรพสินค้าปิดช่วงบ่าย ด้านฝรั่งเศสส่งกองกำลังคุมเข้มแหล่งน้ำบริโภคทั้งหมด หลังพบชุดป้องกันภัยชีวภาพระดับสูงถูกขโมยจากโรงพยาบาลปารีส
เดอะเทเลกราฟและเดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รวมไปถึง สื่อทั่วโลกรายงานความคืบหน้าเหตุโจมตีปารีสล่าสุดในวันนี้(21)ว่า ในช่วงเวลาข้ามคืนที่ผ่านมาเบลเยียมเตือนภัยก่อการร้าย “ขั้นสูงสุด” ในบรัสเซลส์ โดยนอกจากเตือนไม่ให้ประชาชนชาวเบลเยียมอยู่ในที่คนพลุกพล่าน แล้ว ยังส่งกองกำลังออกปประจำตามถนนสายต่างๆ ที่รวมไปถึงมีการวิ่งของยานพลลำเลียงตามถนนให้เห็น สั่งระงับการขนส่งสาธารณะ เป็นต้นว่าระบบรถไฟเมโทร ห้ามไม่ให้ใช้ลานจอดรถ การแข่งขันฟุตบอล และกิจกรรมต่างๆถูกสั่งยกเลิก และมีรายงานว่าห้างสรรพสินค้าในเบลเยียม เป็นต้นว่า City2 หรือ เวสต์แลนด์ จะปิดให้บริการในช่วงบ่ายวันนี้(21)
ซึ่งเดอะการ์เดียนรายงานว่า อย่างน้อยศูนย์การค้า Woluwe ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของกรุงบรัสเซลส์ สื่อท้องถิ่นเบลเยียมรายงานว่า มีการสั่งอพยพให้ผู้จับจ่ายออกมาภายนอกด้วยเช่นกัน หลังจากเปิดไปได้สักพัก ซึ่งในเบื้องต้นยังไม่มีการชี้แจงว่า เหตุใดจึงปิดอย่างกระทันหัน
โดยในเบื้องต้นนายกรัฐมนตรีเบลเยียม ชาร์ลส มิเชลส ออกแถลงการณ์ว่า เหตุผลในการปิดล็อกกรุงบรัสเซลสครั้งนี้ เนื่องจากเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่เมืองหลวงแห่งนี้จะตกเป็นเป้าก่อการร้ายพร้อมกันหลายจุดเหมือนเช่นที่เกิดขึ้นกับกรุงปารีสในวันศุกร์(13) ด้วยระเบิดและอาวุธต่างๆ เทเลกราฟรายงาน
ซึ่งก่อนหน้านี้จากการเข้าบุกค้นที่ย่านโมเลนเบค( Molenbeek)ในคืนวันศุกร์(20) จากการแถลงของสำนักงานอัยการเบลเยียมในวันนี้(21)ผ่านการรายงานของเดอะการ์เดียนเปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเบลเยียมพบคลังแสงที่มีทั้งอาวุธเคมีและระเบิดที่บ้านของคนร้ายซึ่งตั้งอยู่บนถนน วานเดเพียร์บุม(Vandepeerboom ) อ้างอิงจากสื่อเบลเยียม La Capitale
ซึ่งในเบื้องต้นนี้ ยังไม่มีการเปิดเผยว่า มีการจับกุมเกิดขึ้นหรือไม่
นอกจากนี้หนังสือพิมพ์เบลเยียม Dernière Heure รายงานเพิ่มเติมว่า บ้านที่ทางเจ้าหน้าที่พบคลังแสงนี้เป็นบ้านพักที่อยู่ในสภาพทรุดโทรมซึ่งเป็นสถานที่อับเดลฮามิด อาบาอูด (Abdelhamid Abaaoud) มันสมองโจมตีปารีสใช้เป็นกองบัญชาการออกคำสั่ง Sleeper Cell ก่อการร้าย
สื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า การค้นพบคลังแสงก่อการร้ายเกิดขึ้นหลังจาก รัฐบาลเบลเยียมออกคำสั่งให้เบลเยียมอยู่ในการเตือนภัยขั้นสูงสุด ท่ามความกังวลที่ ซาเลห์ อับเดสลาม(Salah Abdeslam) ผู้ก่อการร้ายโจมตีปารีสที่ยังมีชีวิต และยังคงอยู่ในระหว่างการหลบหนี ซึ่งสำนักอัยการปารีสออกแถลงการณ์ในวันเสาร์(21)ยอมรับว่าขณะนี้ไม่ทราบว่าตัวคนร้ายอยู่ที่ใด โดยอับเดสลามสามารถหลบหนีข้ามแดนเข้ามายังเบลเยียมได้ในวันเดียวกับที่เสร็จสิ้นโจมตีกรุงปารีส ฝรั่งเศส แล้ว
และเดลีเทเลกราฟในวันนี้(21)ยังรายงานถึงคำสั่งคุมเข้มแหล่งน้ำในฝรั่งเศสว่า ปารีสได้เพิ่มมาตรการความปลอดภัยระดับสูง โดยออกคำสั่งส่งกองกำลังคุมตามแหล่งน้ำสาธารณะต่างๆที่จะส่งเข้ามาเมืองหลวงของฝรั่งเศส หลังจากมีรายงานว่า มีการพบว่าชุดป้องกันภัยชีวภาพระดับสูงที่สามารถป้องกันเชื้อโรคร้าย เช่น อีโบลา ถูกขโมยออกจากโรงพยาบาลเนคเกอร์ (Necker) หนึ่งในโรงพยาบาลชั้นนำของกรุงปารีส
ซึ่งสื่ออังกฤษรายงานว่า รองเท้าบูทส์ยางที่สามารถป้องกันอันตรายจากสารเคมีได้ถึง 3 เท่าทำมาจากโพลีเอธิลีน รวมไปถึงถุงมือ และหน้ากากครอบป้องกันเชื้อโรคได้หายไปพร้อมกัน
โดยทางโรงพยาบาลเนคเกอร์ออกแถลงการณ์ว่า “มีการพบว่าชุดป้องกันภัยชีวภาพและสารเคมีที่มีจำนวนจำกัดเช่นนี้หายไปในวันพุธ และทางโรงพยาบาลได้ทำการแจ้งเรื่องต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว”
นอกจากนี้สื่ออังกฤษยังรายงานต่อว่า Eau de Paris บริษัทผลิตน้ำประปาปารีสล่าสุดออกประกาศ ห้ามเข้ายังแหล่งน้ำสำคัญ 6 แห่ง ยกเว้นเจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับอนุญาต
และเดลีเทเลกราฟยังรายงานเพิ่มเติมว่า มาตรการความปลอดภัยครั้งล่าสุดนี้ให้ความสำคัญที่สถานที่กักเก็บน้ำสำหรับใช้สอย ที่มีการป้องกันแน่นหนา รวมถึงมีรั้วกั้นป้องกัน และรวมไปถึงการติดตั้งระบบเซ็นเซอร์เตือนภัยคอยจับสัญญาณผู้บุกรุก “ระบบเซ็นเซอร์เหล่านี้เชื่อมโยงไปยังศูนย์บังคับการ และหากมีการเตือนบุกรุกเกิดขึ้น ทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจจะถูกส่งไปที่นั่นในทันที” Celia Blauel ผู้ช่วยนายกเทศมนตรีกรุงปารีส และประธานบริษัทผลิตน้ำประปา Eau de Paris แถลง
และเพื่อเป็นการป้องกันการปนเปื้อนของน้ำ ทางบริษัทประปาปารีสได้เพิ่มจำนวนสารคลอรีนในแหล่งน้ำ 5 แห่ง
เดลีเทเลกราฟรายงานเพิ่มเติมว่า มีรายงานในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ทางโรงพยาบาลต่างๆ และหน่วยงานฉุกเฉินทั่วฝรั่งเศสต่างเตรียมพร้อม และทำการกักตุนอุปกรณ์และสิ่งจำเป็นสำหรับแอนติโดสอาวุธเคมี “ซารีน” และสารเคมีทำลายประสาทอื่นๆเป็นครั้งแรก