เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันกลับมาลงแรงในวันอังคาร (17 พ.ย.) จากความคาดหมายอุปสงค์ที่อ่อนแอในสหรัฐฯ และดอลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ปัจจัยนี้ฉุดทองคำขยับลง ส่วนวอลล์สตรีททรุดลงในช่วงท้ายของการซื้อขาย ก่อนปิดบวกแค่ในกรอบแคบๆ นักลงทุนตื่นตระหนกข่าวเตือนวางระเบิดเกมฟุตบอลนัดอุ่นเครื่องในเยอรมนี
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 1.07 ดอลลาร์ ปิดที่ 40.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 99 เซ็นต์ ปิดที่ 43.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ด้วยอุณหภูมิฤดูใบไม้ร่วงที่ไม่หนาวเกินไปในสหรัฐฯ กระพือความคาดหมายว่าคลังน้ำมันดิบสำรองทางพาณิชย์ของประเทศจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ ก่อแรงกดดันทางลบต่อราคาน้ำมันอย่างไม่ลดละ
นอกจากนี้แล้วน้ำมันยังถูกกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น และปัจจัยนี้เองที่ฉุดให้ทองคำขยับลงต่กว่า 1,070 ดอลลาร์ เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีเมื่อวันอังคาร (17 พ.ย.) โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 15 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,068.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันอังคาร (17 พ.ย.) ซื้อขายในแดนบวกตลอดทั้งวัน ทว่า ถูกฉุดให้มาปิดในกรอบแคบๆ ตามหลังข่าวการยกเลิกเกมการแข่งขันฟุตบอลระหว่างเยอรมนีกับเนเธอร์แลนด์ ท่ามกลางคำเตือนถูกวางระเบิด
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 6.49 จุด (0.04 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17.489.50 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 2.75 จุด (0.13 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,050.44 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 1.40 จุด (0.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,986.02 จุด
ดัชนีทั้ง 3 ตัว ดีดตัวสู่แดนบวกตามหลังรายงานผลประกอบการอันสดใสจากวอลล์มาร์ท และโฮม ดีโปต์ แต่ก็ทรุดลงอย่างรวดเร็ว จากข่าวคราวการยกเลิกเกมฟุตบอลนัดกระชับมิตรระหว่างเยอรมนีกับเนเธอร์แลนด์ ไม่กี่ชั่วโมงก่อนเริ่ม หลังมีคำเตือนถูกวางระเบิดสนามในเมืองฮันโนเวอร์ ซึ่งเกิดขึ้นไม่กี่วันตามหลังเหตุก่อการร้ายโจมตีปารีส คร่าชีวิตผู้คน 129 ศพ