รอยเตอร์/เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่รัสเซียห้ามเที่ยวบินของ "อียิปต์แอร์" สายการบินแห่งชาติอียิปต์บินเข้าประเทศ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานโดโมเดโดโวในมอสโกเปิดเผยเมื่อวันศุกร์(13พ.ย.) เบื้องตันยังไม่ทราบเหตุผลที่แน่ชัด แต่ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นราว 2 สัปดาห์ หลังเครื่องบินโดยสารแดนหมีขาวตกในแถบคาบสมุทรไซนาย ที่นักรบรัฐอิสลาม(ไอเอส) อ้างว่าอยู่เบื้องหลัง
Rosaviatsia สำนักงานการบินของรัสเซีย ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นต่อความเคลื่อนไหวนี้กับรอยเตอร์ ส่วนนายฮัสซัม คามาล รัฐมนตรีการบินพลเรือนอียิปต์ บอกว่าเจ้าหน้าที่รัสเซียไม่ได้แจ้งมายังไคโรอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการตัดสินใจดังกล่าว
เจ้าหน้าที่สนามบินโดโมเดโดโวระบุว่าคำสั่งห้ามเที่ยวบินต่างๆของอียิปต์แอร์ บินเข้าสู่น่านฟ้าของประเทศ จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันเสาร์(14พ.ย.) เป็นต้นไป
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นเพียง 1 สัปดาห์ หลังจากรัสเซียระงับเที่ยวบินต่างๆที่มุ่งหน้าสู่อียิปต์ ตามหลังโศกนาฏกรรมเครื่องบินแอร์บัส A321ของสายการบินเมโทรเจ็ต ที่กำลังพานักท่องเที่ยวเดินทางกลับจากชาร์ม เอล-ชีค เมืองตากอากาศริมทะเลแดง ตกในแถบคาบสมุทรไซนาย ที่ทางเครือข่ายของพวกนักรบรัฐอิสลามออกมาอ้างความรับผิดชอบ
รัสเซียบอกว่าขอระงับเที่ยวบินต่างๆจนกว่าท่าอากาศยานต่างๆของอียิปต์จะกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเพียงพอ และได้ดำเนินการพาพลเมืองหลายพันคนที่ตกค้างในอียิปต์กลับสู่มาตุภูมิแล้ว
เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งของเครมลิน บอกว่าคำสั่งแบนเที่ยวบินที่มุ่งหน้าสู่อียิปต์อาจกินเวลานานหลายเดือน ส่วน แอโรฟลอต สายการบินแห่งชาติของรัสเซีย เผยว่าทางบริษัทไม่มีกำหนดการบินไปยังอียิปต์จนกว่าจะถึงวันที่ 27 มีนาคม 2016
เหตุเครื่องบินของสายการบินเมโทรเจ็ตตกเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือยกลำ 224 ศพ เป็นโศกนาฏกรรมที่ทางพวกนักรบไอเอสอ้างว่าเป็นการแก้แค้นต่อปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของรัสเซียในซีเรีย ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายน
ในขณะที่ยังไม่มีผลการสืบสวนอย่างเป็นทางการยืนยันคำกล่าวอ้างของพวกนักรบ และการสืบสวนที่นำโดยอียิปต์กำลังดำเนินอยู่ แต่หลายประเทศได้ยกเลิกเที่ยบินสู่ชาร์ม เอล-ชีคและประกาศมาตรการระมัดระวังไว้ก่อน ขณะที่อังกฤษและสหรัฐฯ เชื่อว่ามันมีต้นตอจากระเบิดที่ถูกแอบติดตั้งอยู่ในเครื่องบิน