เอเอฟพี/เอพี - ราคาน้ำมันร่วงหนักเมื่อวันพุธ (11 พ.ย.) หลังรายงานพบคลังสำรองของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเกินคาดหมาย ซ้ำเติมความกังวลอุปทานล้นตลาด ส่วนวอลล์สตรีทก็ปิดลบจากแรงฉุดจากข้อมูลบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ ขณะที่ทองคำแตะระดับต่ำสุดรอบ 5 ปีจากวิตกต่อกรณีเฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 1.28 ดอลลาร์ ปิดที่ 42.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.63 ดอลลาร์ ปิดที่ 45.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันปรับลงแรง ตามหลังข้อมูลจากสถาบันปิโตรเลียมของสหรัฐฯ ซึ่งเผยให้เห็นถึงคลังน้ำมันดิบสำรองที่เพิ่มขึ้นถึง 6.3 ลานบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 6 พฤศจิกายน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตารายงานสต๊อกเชื้อเพลิงสำรองของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯที่มีกำหนดเผยแพร่ในวันพฤหัสบดี (12 พ.ย) เลื่อนจากเดิม 1 วัน เนื่องจากวันพุธ (11 พ.ย.) เป็นวันหยุดวันทหารผ่านศึกของอเมริกา ด้วยผลสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์เชื่อว่าสต๊อกน้ำมันดิบน่าจะเพิ่มอีกราวๆ 500,000 ถึง 1.1 ล้านบาร์เรล
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (11 พ.ย.) ปิดลบในกรอบแคบๆ ถูกฉุดจากหุ้นกลุ่มบริษัทค้าปลีกและพลังงาน
ดาวโจนส์ ลดลง 55.99 จุด (0.32 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17.702.22 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 6.72 จุด (0.32 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,075.00 จุด แนสแดค ลดลง 16.22 จุด (0.32 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,067.02 จุด
หุ้นของเมซีส์ ดิ่งลงถึง 14 เปอร์เซ็นต์ในวันพุธ (11 พ.ย.) หลังรายงานผลประกอบการอันน่าผิดหวังและปรับลดประมาณการกำไร ความเคลื่อนไหวดังกล่าวฉุดให้บริษัทค้าปลีกอื่นๆ ขยับลงตามๆ กัน ด้วยนักลงทุนกังวลต่อภาวะยอดขายชะลอตัวในช่วงฤดูกาลชอปปิ้งที่กำลังมาถึง
ส่วนราคาทองคำเมื่อวันพุธ (11 พ.ย.) ขยับลงเล็กน้อย แต่ก็แตะระดับต่ำตั้งแต่ช่วงต้นปี 2010 จากวิตกต่อกรณีธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม ทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 3.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,084.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์