เอพี / เอเจนซีส์ / MGR online - นายกรัฐมนตรีโอมาร์ ชาร์มาร์เก แห่งโซมาเลีย ออกโรงเรียกร้องในวันจันทร์ (9 พ.ย.) ผ่านที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (U.N. Security Council) โดยระบุว่าการยุติความขัดแย้งในประเทศเยเมนมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในการป้องกันโซมาเลียจากภัยคุกคามของกลุ่มนักรบอิสลามิสต์ “อัล-ชาบาบ” ที่เพิ่งประกาศสวามิภักดิ์ต่อกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส)
นายกรัฐมนตรีโซมาเลียระบุว่า ในเวลานี้ประเทศของตนต้องการการสนับสนุนในการรับมือภัยคุกคามจากกลุ่มนักรบอัล-ชาบาบมากกว่าช่วงที่ผ่านมา และว่าความพยายามของนานาชาติในการยุติความขัดแย้งในเยเมน มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อโซมาเลีย ในการต่อกรกับกลุ่มติดอาวุธสุดโต่งดังกล่าว
ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ข้อมูลข่าวกรองของหลายประเทศในโลกตะวันตก ระบุว่า กลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์อัล-ชาบาบซึ่งมีจุดมุ่งหมายต้องการสถาปนาการปกครองแบบรัฐอิสลามสุดโต่งขึ้นในโซมาเลีย และภูมิภาคแอฟริกาตะวันออกได้รับการสนับสนุนทั้งทางการเงินและอาวุธยุทโธปกรณ์จากเครือข่ายของทั้งกลุ่มไอเอสและอัลกออิดะห์ในเยเมนและอีกหลายประเทศแถบตะวันออกกลาง
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีของโซมาเลียยังระบุว่า รัฐบาลของตนยังคงต้องการรับการสนับสนุนด้านการทหารเพื่อยกระดับกองทัพโซมาเลียให้มีศักยภาพมากพอที่จะต่อกรกับ “เครือข่ายแห่งความหวาดกลัว” ที่นำโดยกลุ่มอัล-ชาบาบและกลุ่มไอเอสได้
ทั้งนี้ โซมาเลียกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งสำคัญในการฟื้นฟูประเทศของตนจากภาวะสงครามกลางเมือง ภายใต้การนำของรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มในการบริหารประเทศชุดแรกนับตั้งแต่ปี 1991 เป็นต้นมา แต่รัฐบาลโซมาเลียต้องเผชิญกับภัยคุกคามจากกลุ่มนักรบอัล-ชาบาบ แม้กลุ่มติดอาวุธสุดโต่งนี้จะถูกกองกำลังนานาชาติผลักดันออกไปพ้นจากกรุงโมกาดิชูที่เป็นเมืองหลวงของประเทศได้แล้วตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา