เอพี/เอเจนซีส์ – เจ้าหน้าที่ตำรวจแคนาดาเผยว่า การค้นหายังคงทำอย่างต่อเนื่องในช่วงค่ำวานนี้(25)หลังจาก MV Leviathan II เรือขนนักท่องเที่ยวชมวาฬจำนวน 27 คนอยู่บนนั้นเกิดล่มนอกชายฝั่งเกาะวากัส (Vagas)ของเมืองแวนคูเวอร์ แคนานาดา ในวันอาทิตย์(25) และทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 4 คน ทั้งๆที่สภาพอากาศแจ่มใส
เอพีและ CBC สื่อแคนาดารายงานวันนี้(26)ว่า ศูนย์ประสานงานกู้ภัยแคนาดา JRCC (the Joint Rescue Coordination Centre) แถลงล่าสุดถึงเหตุ MV Leviathan II เรือนักท่องเที่ยวชมวาฬของบริษัท Jamie's Whaling Station ล่มว่า ในช่วงบ่ายวันอาทิตย์(25)ที่มีรายงานว่า สภาพอากาศแจ่มใส เรือชมวาฬ MV Leviathan II ได้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือนอกชายฝั่งเกาะวากัส (Vargas) เมืองแวนคูเวอร์ ทางตะวันตกของแคนาดา ซึ่งเกาะวากัสขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในการชมวาฬที่โด่งดังของย่านชายฝั่งตะวันตก
ด้านนาวาตรี เดอมอนด์ เคร็ก (Desmond Craig) โฆษก JRCC ที่เป็นความร่วมมือระหว่างกองทัพแคนาดาและหน่วยงานยามฝั่งแคนาดา แถลงว่า สามารถช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากน้ำได้ 4 รายในสภาพที่ไม่สัญญาณการเต้นของหัวใจ แต่ทว่าในขณะนี้เป็นการเร็วเกินไปที่เคร็กจะสามรถยืนยันตัวเลขแน่นอนของผู้สูญหายจากทริปเรือส่องวาฬลำนี้
โฆษก JRCC แถลงต่อว่า จุดเรือ MV Leviathan II ล่มห่างจากฝั่งไปราว 8 ไมล์ทะเลทางตะวันตกของโทฟิโน(Tofino)
ในขณะที่วาเลรี วิลสัน (Valerie Wilson)โฆษกหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ ให้ข้อมูลว่า มีเหยื่อรอดชีวิตจากเหตุเรือชมวาฬล่มจำนวน 8 คนเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลโทฟิโน เจนเนอรัลด์ (Tofino General Hospital)แห่งนี้ที่มีเตียงคนไข้จำนวน 10 เตียง และแคร่หาผู้ป่วยฉุกเฉินจำนวน 5 แคร่เพียงเท่านั้น ซึ่งจากจำนวนทั้งหมด มีผู้ป่วย 7 คนมีอาการทั่วไปโดยรวมดี แต่มี 1 คนยังอยู่ในระยะวิกฤต แต่ยังทรงตัว
ทั้งนี้CBC สื่อแคนาดารายงานว่า ในช่วงไม่นานหลังจากเกิดเหตุ หน่วยกู้ภัยฉุกเฉินแคนาดาได้ยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิต 3 รายในเวลา 17.10 น. วานนี้(25)และต่อมามีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย โดยทางเจ้าหน้าที่คาดว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น
เคร็กแถลงเพิ่มเติมว่า “คนที่นี่ที่ทราบเหตุร้ายนี้ต่างตกตะลึงและเศร้าโศก ล้วนต้องการยื่นมือช่วยเหลือ”
เอพีรายงานเพิ่มเติมว่า ในภารกิจการค้นหา ทางแคนาดาได้ส่งทั้งเรือหน่วยงานยามฝั่งเพื่อออกค้นหา รวมไปถึงสั่งให้เฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินช่วยชีวิตออกติดตามทางอากาศ
เอพีรายงานต่อว่า อย่างไรก็ตาม เรือจากชนเผ่าพื้นเมืองแคนาดาในเขตอนุรักษ์ Ahoushat First Nation ซึ่งถือเป็นเสมือนกึ่งเขตปกครองตนเอง เดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุเป็นลำแรก โดยทอม แคมพ์เบล (Tom Campbell) สมาชิกสภาชนเผ่าแถลง โดยแคมพ์เบลอยู่ในที่เกิดเหตุ และร่วมสังเกตการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัยแคนาดานำผู้รอดชีวิตจากน้ำกลับเข้าฝั่ง
แคมพ์เบลกล่าวให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากโทฟิโนว่า “สภาพของผู้รอดชีวิตทำให้รู้ได้ในเพียงเสี้ยววินาทีว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นอย่างไร” และเสริมต่อว่า “ไม่มีทางที่บรรยายได้ถึงสภาพคนที่ประสบภัยวิกฤตเช่นนั้นได้ถูกแน่นอน เพราะคนพวกนั้นมีสภาพเหมือน คนที่อยู่ในสภาวะทำอะไรไม่ถูก เหมือนกำลังอหลงทาง มึนงง และตื่นกลัวสุดชีวิต”
และนอกจากเรือจากชนเผ่าพื้นเมืองที่ได้เข้าไปถึงที่จุดเกิดเหตุแล้ว เรือแท็กซีเอกชนให้บริการทางน้ำในย่านนี้ยังร่วมค้นหา
ในขณะที่จอห์น ฟอร์ด (John Forde) เจ้าของกิจการนำเรือชมวาฬ “วาฬเซนเตอร์” อีกแห่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดาคนที่นำเรือออกค้นหาผู้รอดชีวิตเช่นกัน และได้รับคำสั่งให้ค้นหาผู้รอดชีวิตจำนวน 4-5 คน กล่าวว่า “มันเป็นสถานการณ์ที่ยุ่งยากในภารกิจที่ต้องค้นหาพื้นที่ท้องน้ำทุกตารางนิ้วในที่พื้นที่เปิดโล่งเพื่อหาผู้รอดชีวิต” ฟอร์ดให้ความเห็น และยังเสริมว่า ไม่คิดว่าจะสามารถพบเหยื่อนักท่องเที่ยวรอดชีวิตเหล่านี้ได้โดยเฉพาะในสถานการณ์เวลาที่ทอดยาวออกไป
และฟอร์ดยังกล่าวให้ความเห็นต่อถึงสาเหตุอุบัติเหตุครั้งนี้ว่า “ในทุกปีในสภาพอากาศเช่นเมื่อวานนี้ ทางบรรดาผู้ประกอบการนำชมวาฬต่างพานักท่องเที่ยวอนุรักษ์ลงเรือไปยังจุดชมวาฬ ซึ่งผมไม่ทราบอย่างแน่นอนว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุเรือชมวาฬลำนี้เกิดอับปางขึ้น”
อย่างไรก็ตามฟอร์ดให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึง Jamie’s Whaling Station ซึ่งเป็นเจ้าของเรือชมวาฬที่เกิดเหตุว่า ถือเป็นธุรกิจชมวาฬเจ้าแรกในพื้นที่ซึ่งประกอบกิจการนำเที่ยวเชิงอนุรักษ์เป็นระยะเวลานานมาแล้ว
