เอพี / เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - พายุโซนร้อน “แพทริเซีย” ทวีกำลังแรงขึ้นในน่านน้ำนอกชายฝั่งทางภาคใต้ของเม็กซิโกในวันพุธ (21 ต.ค.) ส่งผลให้ทางการต้องออกประกาศเตือนภัยพายุเฮอริเคนในหลายพื้นที่ตามแนวชายฝั่งของแดนจังโก้ ด้านที่ติดต่อกับมหาสมุทรแปซิฟิก
รายงานข่าวล่าสุดซึ่งอ้างข้อมูลจากศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติของสหรัฐฯ ที่มีฐานอยู่ในนครไมอามี มลรัฐฟลอริดา ระบุว่า พายุโซนร้อนแพทริเซียได้ทวีกำลังแรงขึ้นจนล่าสุดมีความเร็วลมที่ศูนย์กลางแตะระดับ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงไปแล้ว และมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงยิ่งขึ้นไปอีก ก่อนที่คาดว่าพายุโซนร้อนลูกนี้จะกลายเป็นเฮอริเคนเต็มรูปแบบในวันพฤหัสบดี (22 ต.ค.) ก่อนจะซัดขึ้นฝั่งเม็กซิโกภายในวันศุกร์ ( 23 ต.ค.) นี้
ทั้งนี้ ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐฯ รวมถึงทางการเม็กซิโกได้ออกคำเตือนภัยพายุเฮอริเคนครอบคลุมพื้นที่หลายเมืองชายฝั่งของเม็กซิโกตั้งแต่กาโบ กอร์ริเอนเตส เรื่อยไปจนถึงเมืองปุนตา ซาน เตลโม รวมถึงเมืองท่าสำคัญของแดนจังโก้ด้านชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกอย่างเมืองมันซานิโญที่มีความสำคัญยิ่งทางเศรษฐกิจ
นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า อิทธิพลของพายุแพทริเซียลูกนี้ยังจะทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่รัฐฮาลิสโก, รัฐโกลิมา, รัฐมิโชอากัน และรัฐเกร์เรโรของเม็กซิโกด้วยเช่นกัน
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เม็กซิโกเพิ่งเผชิญกับพายุโซนร้อน “โอลาฟ” ที่ก่อตัวขึ้นกลางมหาสมุทรแปซิฟิกในน่านน้ำระหว่างเม็กซิโกกับหมู่เกาะฮาวายของสหรัฐฯ ก่อนจะทวีกำลังแรงขึ้นจนส่อเค้ากลายเป็นพายุเฮอริเคนในเวลาต่อมา
โดยรายงานข่าวซึ่งอ้างการยืนยันจากศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติของสหรัฐฯ (เอ็นเอชซี) ในวันเสาร์ (17 ต.ค.) ระบุว่า พายุโซนร้อนโอลาฟซึ่งก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกบริเวณรอยต่อน่านน้ำระหว่างฮาวายและเม็กซิโกได้ทวีกำลังแรงขึ้ และจะกลายเป็นพายุเฮอริเคนในวันอาทิตย์ (18) ที่ผ่านมา ถึงแม้การก่อตัวและทิศทางการเคลื่อนตัวของพายุโอลาฟจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อพื้นที่ชายฝั่งทั้งของมลรัฐฮาวายของสหรัฐฯ ตลอดจนบรรดารัฐทางภาคตะวันตกของเม็กซิโกซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองตากอากาศยอดนิยมหลายแห่งแต่อย่างใด