เอพี/เอเจนซีส์ - ตำรวจรวบตัววัยรุ่น 2 คนเมื่อวันอาทิตย์ (18 ต.ค.) ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กทารกหญิงผู้หนึ่งที่กรุงนิวเดลี ในเหตุการณ์ล่าสุดของการใช้ความรุนแรงล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กเล็กๆ ในเมืองหลวงของอินเดียแห่งนี้
ตำรวจแถลงว่าพวกเขาได้ซักถามชาวบ้านกว่า 250 คนในย่านที่อยู่อาศัยทางด้านตะวันตกของเดลี ซึ่งเป็นสถานที่ที่หนูน้อยวัย 2 ขวบครึ่งผู้นี้ถูกข่มขืน และถูกปล่อยให้เลือดไหลออกจากร่างอยู่ในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งเมื่อคืนวันศุกร์ (16)
วัยรุ่นชายอายุ 17 ปีทั้ง 2 คนถูกจับกุมตั้งแต่คืนวันเสาร์ (17) เทเพนทรา ปาธัค นายตำรวจอาวุโสผู้หนึ่งของเดลีบอก พร้อมระบุว่าทั้ง 2 คนนี้ก็อาศัยอยู่ในชุมชนคนจนแห่งเดียวกับหนูน้อย และคนหนึ่งรู้จักครอบครัวของเธอด้วย ขณะที่ พุชเพนทรา กุมาร รองผู้บัญชาการตำรวจของเดลี แถลงว่า หลังจากถูกสอบสวน วัยรุ่น 2 คนนี้ได้ยอมรับสารภาพ
ทารกหญิงผู้นี้กำลังเล่นอยู่นอกบ้านของเธอ ตอนที่เธอหายตัวไปในระหว่างที่กระแสไฟฟ้าในย่านนั้นเกิดดับไป 10 นาที สมาชิกในครอบครัวพบหนูน้อยนอนสิ้นสติและมีเลือดไหลออกจากตัว ในสวนที่อยู่ใกล้ๆ แห่งหนึ่ง หลังจากนั้นราว 3 ชั่วโมง
ในอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกัน ตำรวจได้เข้าจับกุมชาย 3 คนเมื่อวันเสาร์ (17) ด้วยข้อหาข่มขืนเด็กอายุ 5 ขวบ ในพื้นที่ชานเมืองด้านตะวันออกของเดลี
กรณีการข่มขืนเด็กหญิงเล็กๆ 2 คนนี้เกิดขึ้น 1 สัปดาห์หลังจากมีผู้พบเด็กหญิง 4 ขวบคนหนึ่งถูกโยนทิ้งใกล้ๆ ทางรถไฟ ภายหลังถูกข่มขืนและถูกฟันด้วยของมีคมในเขตเมืองหลวงแห่งนี้เช่นกัน
เหตุการณ์ทำร้ายทางเพศเหล่านี้ก่อให้เกิดกระแสความไม่พอใจ โดยที่ชาวเมืองเดลีพากันกล่าวหารัฐบาลของทางนครว่าล้มเหลวในการปกป้องคุ้มครองผู้หญิงและเด็กหญิง
ขณะที่ อรวินด์ เคจริวัล เจ้าหน้าที่ผู้ได้รับการเลือกตั้งตำแหน่งสูงสุดของเดลี ได้ออกมาตอบโต้ว่าเป็นความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ต่างหาก เพราะตำรวจบกพร่องล้มเหลวในการทำงาน ทั้งนี้ถึงแม้ เคจริวัล มีตำแหน่งเป็นมุขมนตรีแห่งเดลี ทว่าตำรวจในเขตเมืองหลวงนั้นขึ้นตรงต่อรัฐบาลกลางของนายกฯโมดี
เคจริวัลระบุว่า ทั้งรัฐบาลกลางและตำรวจไม่ได้ทำอะไรให้เพียงพอในการปกป้องคุ้มครองผู้หญิงในเมืองนี้ และอาชญากรรมที่มุ่งประทุษร้ายพวกเธอกำลังเพิ่มขึ้นทุกที จากนั้นเขาก็ถือโอกาสเรียกร้องอีกครั้งหนึ่งว่า ควรส่งมอบอำนาจควบคุมตำรวจมาให้ทางรัฐบาลระดับรัฐเป็นผู้ดูแล
เหตุการณ์ประทุษร้ายทางเพศที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่นานมานี้ กำลังทำให้เกิดกระแสความโกรธกริ้วและความหวาดกลัวขึ้นในหมู่ประชาชนขึ้นมาใหม่ เนื่องจากรู้สึกว่าอินเดียไร้ความสามารถที่จะระงับยับยั้งความรุนแรงที่กระทำต่อผู้หญิงและเด็กหญิง จนกระทั่งกลายเป็นปัญหาเรื้อรังแก้ไม่ตก
เมื่อเดือนธันวาคม 2012 เหตุการณ์ฆ่าข่มขืนสุดโหดนักศึกษาหญิงทางด้านการแพทย์วัย 23 ปีขณะอยู่บนรถประจำทางที่กำลังวิ่งอยู่บนท้องถนนในเดลี ได้ทำให้เกิดความแค้นเคืองขึ้นทั่วประเทศ เพื่อตอบโต้กับการประทุษร้ายเช่นนั้น รัฐบาลได้ออกมาตรการเพิ่มโทษอีกเท่าตัวต่อผู้ก่อเหตุข่มขืนโดยให้จำคุกสูงสุด 20 ปี, จัดตั้งศาลพิเศษเพื่อให้สามารถพิจารณาคดีประเภทนี้ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น, และรวมทั้งให้ถือพฤติการณ์ถ้ำมองและการสาดน้ำกรด เป็นอาชญากรรมพิเศษตามกฎหมายที่แก้ไขใหม่
อย่างไรก็ตาม สำนักงานทะเบียนประวัติอาชญากรรมแห่งชาติของอินเดียระบุว่า เมื่อปี 2014 ยังคงมีเด็กหญิงและผู้หญิงกว่า 2,000 คนถูกข่มขืนในกรุงนิวเดลี