xs
xsm
sm
md
lg

พายุไต้ฝุ่น “คอปปุ” ซัดขึ้นฝั่งภาคเหนือฟิลิปปินส์ ทำคนพลัดถิ่นแล้ว 10,000 ราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์ - พายุไต้ฝุ่นกำลังแรง “คอปปุ” เคลื่อนเข้าสู่ภาคเหนือของฟิลิปปินส์เมื่อช่วงเช้ามืดวันอาทิตย์ (18 ต.ค.) ทำลายบ้านเรือนหลายหลัง ส่งผลให้คนกว่า 10,000 ต้องพลัดถิ่นที่อยู่ และยังทำให้เกิดคลื่นชายฝั่งสูง 4 เมตรด้วย เจ้าหน้าที่หน่วยงานภัยพิบัติกล่าว

ในตอนนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ หลังจากที่พายุระดับ 4 ลูกนี้ ซึ่งมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลาง 175 กิโลเมตร ทำให้เกิดดินถล่มเมื่อเวลาราว 01.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (12.00 น.ตามเวลาประเทศไทย) ใกล้กับเมืองคาซิกูรันในจังหวัดออโรรา

พายุคอปปุทำให้มีฝนตกหนัก ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมและสร้างความเสียหายแก่ถนนและสะพานต่างๆ ทั้งยังทำให้เสาไฟฟ้าและเสาสื่อสารโค่นล้มหลายต้น

“ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ขอบคุณพระเจ้า” อเล็กซานเดอร์ ปามา ผู้อำนวยการบริหารของสภาบริหารจัดการและบรรเทาความเสี่ยงภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าว

“ในเบื้องต้นเราทราบว่ามีบ้านจำนวนมากถูกทำลาย เสาไฟฟ้าโค่นล้ม และต้นไม้กีดขวางถนนเส้นสำคัญต่างๆ” เขากล่าว พร้อมเสริมว่ามีคน 10,000 คนกลายเป็นผู้พลัดถิ่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะลูซอน ซึ่งเป็นเกาะหลักของประเทศนี้

สำนักงานพยากรณ์อากาศกล่าว่า พายุคอปปุจะคงอยู่ในเกาะลูซอนเป็นเวลา 3 วัน เนื่องจากความกดอากาศสูงในภาคเหนือและพายุไต้ฝุ่นอีกลูกหนึ่งในทางตะวันตกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิก

สถานีวิทยุท้องถิ่น dzBB รานงานว่า เมืองคาซิกูรันที่ซึ่งพายุคอปปุซัดเข้ากระหน่ำนั้นได้ถูกตัดขาดจากภายนอก ขณะที่ นอร์มา ตาโลซิก หัวหน้าหน่วยงานภัยพิบัติส่วนภูมิภาคในหุบเขาคากายันที่เป็นแหล่งเพาะปลูกข้าว กล่าวว่า “เราคาดว่าโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะและพื้นที่เพาะปลูกคงได้รับความเสียหายบ้างเล็กน้อย”

จูเนีย คูอา ผู้ว่าการจังหวัดกีริโนกล่าวว่าเสาไฟฟ้าและต้นไม้ที่โค่นล้มกำลังเป็นอุปสรรคค่อผู้ปฏิบัติงานฉุกเฉินในการเข้าถึงชุมชุนห่างไกล

ทางการระบุว่า มีการสั่งระงับการให้บริการเที่ยวบินและเรือเฟอรร์รี 30 เที่ยวในภาคเหนือ รวมถึงบริการรถโดยสารประจำทางบางเส้นทางด้วยเช่นกันเนื่องจากในพื้นที่ภูเขามีความเสี่ยงจะเกิดดินถล่ม

เมื่อวันศุกร์ (16) ประธานาธิบดีเบนิกโน อากีโน ได้กล่าวร้องขอประชาชนทางโทรทัศน์ว่าอย่าตื่นตระหนกและให้เตรียมพร้อม ครั้งสุดท้ายที่ อากีโน ออกมาร้องขอเช่นนี้คือในปี 2013 หนึ่งวันก่อนที่ซุปเปอร์ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนจะเข้ากระหน่ำภาคกลางแดนตากาล็อก คร่าชีวิตประชาชนไปกว่า 6,300 คนและทำให้กว่าหลายล้านคนกลายเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัย ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์เผชิญกับพายุไต้ฝุ่นเฉลี่ย 20 ลูกต่อปี