เอเจนซีส์ – รายงานเปิดเผยล่าสุดในความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่มอลโดวาและ FBI สหรัฐฯในรอบ 5 ปี สามารถหยุดขบวนการลักลอบขนวัตถุดิบนิวเคลียร์ที่มีรัสเซียเข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อขายให้กับกลุ่มก่อการร้าย IS ที่วัตถุดิบเหล่านี้สามารถนำไปผลิตระเบิดกัมมันตรังสี หรือ Dirty bomb ได้
ดิอินดีเพนเดนต์ สื่ออังกฤษรายงานวันนี้(7)ว่า เจ้าหน้าที่มอลโดวาร่วมปฎิบัติการกับหน่วย FBI สหรัฐฯ สามารถหยุดความพยายามในการซื้อขายวัตถุดิบนิวเคลียร์ของแก๊งอาชญากรรมที่ต้องสงสัยว่า อาจจะมีรัสเซียอยู่เบื้องหลัง
ซึ่งมีความพยายามขายวัตถุดิบนิวเคลียร์ให้กับกลุ่มก่อการร้าย IS เพื่อผลิตระเบิดกัมมันตรังสี หรือ Dirty bomb เอพีเป็นเจ้าแรกที่เปิดเผยในเรื่องนี้รายงาน
ทั้งนี้เคสล่าสุดเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2015 ที่ทางกลุ่มลักลอบพยายามเสนอขายกากซีเซียม (cesium) ที่มีจำนวนมากพอที่จะส่งผลในรัศมีในระยะที่มากพอให้กับกลุ่มก่อการร้าย IS ที่กำลังแผ่อาณาเขตในตะวันออกกลาง
สื่ออังกฤษรายงานว่า วาเลนติน กร็อสซู (Valentin Grossu) สมาชิกกลุ่มอาชญากรรมลักลอบขนวัตถุดิบกากนิวเคลียร์ ได้เสนอขาย “กากซีเซียม” ให้กับคนที่เขาคาดว่าจะเป็นนายหน้าติดอาวุธ IS ในสนนราคา 2.5 ล้านยูโร แต่ทว่าคนที่กร็อสซูติดต่อนั้นเป็นสายของเจ้าหน้าที่
“คุณสามารถใช้สิ่งนี้เพื่อผลิตระเบิดกัมมันตรังสี ซึ่งเหมาะสุดสำหรับกลุ่มติดอาวุธ IS” กร็อสซูกล่าวกับนายหน้าสายข่าวที่ไนต์คลับแห่งหนึ่งในเมืองหลวงของมอลโดวา และเสริมต่อว่า “หากคุณสามารถติดต่อได้ ธุรกิจซื้อขายจะยิ่งราบรื่น”
ดิอินดีเพนเดนต์รายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากที่มีการพบปะไปไม่ต่ำกว่า 20 ครั้งกร็อสซูถูกทำให้เชื่ออย่างสนิทใจว่า คนที่เขาติดต่อด้วยนั้นเป็นตัวแทนของกลุ่มก่อการร้าย IS จริง และทำให้เขาตกลงใจในการนัดส่งมอบสินค้าและรับเงิน ทำให้ปฎิบัติการสำเร็จด้วยการจับกุมตัวสมาชิกกลุ่มลักลอบค้าสารกัมมันตภาพรังสีคนนี้เข้าคุก
และในรายงานสอบสวนของเอพียังเปิดเผยถึง ปฎิบัติการของ FBI ที่สามารถหยุดความพยายามในการขายระเบิดเกรดยูเรเนียมให้กับผู้ซื้อจากตะวันออกกลาง
ซึ่งในปฎิบัติการนี้มีการใช้ทั้งการลักลอบดักฟัง และการให้สัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่สอบสวนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีนายหน้าคนกลางจากกลุ่มอาชญากรรมอยู่ในสภาพโมโหจัด หลุดถ้อยคำสบถต่างๆนานาแสดงความเกลียดชังอเมริกาอย่างซึ่งหน้า โดยชายต้องสงสัยผู้นี้ได้พยายามลักลอบขนวัตถุดิบสำคัญเพื่อการผลิตระเบิดกัมมันตภาพและรายละเอียดสำหรับการประกอบระเบิดไปให้กับผู้ซื้อจากภูมิภาคตะวันออกกลาง
สื่ออังกฤษรายงานต่อว่า จากการค้นพบของเอพีระบุว่า จากหลักฐานวิดีโอเทปการสอบปากคำ ภาพถ่ายระเบิด รวมไปถึงหลักฐานจากการสอดแนมการติดต่อสื่อสาร ทำให้ทราบว่ากลุ่มอาชญากรรมนี้ต้องการเจาะจงเลือกลูกค้าที่ต่อต้านชาติตะวันตก โดยเฉพาะกับลูกค้าติดอาวุธอัลกออิดะห์ และกลุ่มก่อการร้าย IS
และในปฎิบัติทั้งหมด 4 ครั้งในช่วงเวลาไม่ต่ำกว่า 5 ปีของเจ้าหน้าที่มอลโดวาและ FBI ในการแฝงตัวไปยังตลาดมืดสินค้านิวเคลียร์ ซึ่งทั้งสายข่าวและตำรวจต่างพยายามพรางตัวเพื่อเข้าถึงกลุ่มลักลอบค้าวัตถุดิบนิวเคลียร์ใช้ทั้งรูปแบบการจารกรรมแบบเก่า ไปจนถึงเทคโนโลยีสุดล้ำสมัยตั้งแต่อุปกรณ์ตรวจจับสารกัมมันภาพรังสีไปจนถึงเสื้อผ้าที่ติดมาพร้อมกับอุปกรณ์บันทึกเสียง
แต่ทว่าเอพีชี้ว่า ความสำเร็จของปฎิบัติการนั้นยังไม่สมบูรณ์แบบเพราะตัวการใหญ่สามารถหลบหนีไปได้ ในขณะคนร้ายที่ถูกจับกุม มีบางส่วนถูกปล่อยตัวออกมาในภายหลัง และกลับไปลักลอบค้าวัตถุดิบนิวเคลียร์ต่ออีกครั้ง
และที่มากไปกว่านั้น พบว่าในการจับกุมส่วนใหญ่ เพราะสาเหตุทางยุทธศาสตรทำให้การจับกุมกระทำขึ้นในขณะที่มีการส่งตัวอย่างสินค้า มากกว่าที่จะจับกุมในขณะส่งสินค้าล็อตใหญ่ ซึ่งหมายความว่า หากกลุ่มอาชญากรรมมีสินค้าวัตถุดิบนิวเคลียร์อย่างที่ได้อ้างจริง หมายความว่าวัตถุดิบนิวเคลียร์ล็อตใหญ่ยังคงอยู่ในมือ
สื่ออังกฤษชี้ว่า ตลาดมือสินค้านิวเคลียร์เหล่านี้ส่วนมากอยู่ตามชายขอบบริเวณยุโรปตะวันออกที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของอดีตสหภาพโซเวียต และ มอลโดวา ซึ่งมีพรมแดนติดโรมาเนีย เคยเป็นส่วนหนึ่งของอดีตสหภาพโซเวียต
ดิอินดีเพนเดนต์รายงานว่า รายงานพิเศษของเอพีชิ้นนี้ได้มาจากการเปิดเผยของตำรวจและกระบวนการยุติธรรมของมอลโดวา เพื่อต้องการให้โลกตระหนักถึงอันตรายของตลาดมืดสินค้านิวเคลียร์ และยิ่งในสถานการณ์ที่รัสเซียและโลกตะวันตกกลับมาอยู่ในช่วงสงครามเย็นรอบใหม่อีกครั้ง ยิ่งทำให้เป็นการยากที่จะรู้ว่ากลุ่มลักลอบเหล่านี้จะใช้วิธีใดจะเคลื่อนย้ายวัตถุดิบนิวเคลียร์ที่รัสเซียเก็บไว้