เอพี/ รอยเตอร์/ เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ประชาชนชาวมอลโดวาจำนวนกว่า 20,000 คน รวมตัวจัดการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลของตนในกรุงชิซิเนา เมืองหลวงของประเทศในวันอาทิตย์ (4 ต.ค.) เพื่อเรียกร้องให้มีการสอบสวนกรณีเงินจำนวนสูงถึง 1,500 ล้านดอลลาร์ หายไปอย่างมีเงื่อนงำจากธนาคาร 3 แห่งในประเทศเมื่อปีที่แล้ว
อย่างไรก็ดี มีรายงานว่าผู้เข้าร่วมการประท้วงจำนวนหนึ่งต้องเผชิญหน้ากับการขัดขวางของเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะพยายามเดินขบวนไปยังที่ทำการรัฐสภา
รายงานข่าวระบุว่า ผู้ประท้วงส่วนใหญ่ได้นัดรวมตัวกันบริเวณจัตุรัสหลักกลางกรุงชิซิเนาเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกันแล้วเพื่อประท้วงรัฐบาลมอลโดวา จากกรณีอื้อฉาวดังกล่าวนับตั้งแต่วันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมาเพื่อเรียกร้องให้มีการสอบสวนอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเงินที่หายไปและหาตัวผู้กระทำผิดมารับโทษตามกฎหมายของมอลโดวาซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนข้นแค้นที่สุดของทวีปยุโรป
ด้านวาซิเล นาสตาเซ แกนนำองค์กรเคลื่อนไหวภาคเอกชนที่ใช้ชื่อว่า “Dignity and Truth” ที่เป็นผู้จัดการประท้วงในครั้งนี้ ประกาศเชิญชวนประชาชนชาวมอลโดวาให้เข้าร่วมกิจกรรมต่อต้านรัฐบาลในรูปแบบต่างๆ ซึ่งรวมถึงการไม่ยอมชำระค่าสาธารณูปโภคให้แก่ทางการ และการรวมตัวประท้วงตามหน่วยงานของรัฐ ตลอดจนโรงเรียน โดยอ้างว่าการกระทำดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อ “สกัดกั้น” รัฐบาลที่อื้อฉาวของตน
ทั้งนี้ เงินจำนวนดังกล่าวถูกระบุว่าหายออกไปจากธนาคารที่ใหญ่ที่สุด 3 แห่งของมอลโดวาและเงินจำนวนนี้มีสัดส่วนคิดเป็นกว่า 1 ใน 8 ของจีดีพีของประเทศ โดยที่ธนาคารทั้ง 3 แห่งที่มีส่วนพัวพันกับเรื่องอื้อฉาวนี้ เคยประสบกับปัญหาหนี้เน่า และปัญหาในการดำเนินกิจการหลายอย่างจนต้องถูกธนาคารกลางมอลโดวานำเข้าสู่แผนดูแลกิจการเป็นกรณีพิเศษ ตั้งแต่เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว