"นาซา" เตือนวิกฤติควันไฟอินโดฯ อาจเลวร้ายสุดในประวัติศาสตร์

เอเอฟพี - นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า การเผาป่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ก่อให้เกิดควันปกคลุมไปทั่วขณะนี้ กำลังจะกลายเป็นครั้งที่เลวร้ายสุดที่มีการบันทึกไว้ สภาพอากาศแห้งแล้งที่ยาวนานจะขัดขวางการยับยั้งวิกฤตินี้

มาเลเซีย สิงคโปร์และอินโดนีเซียต้องทนทุกข์มาหลายสัปดาห์ด้วยควันไฟจากการเผาป่าเพื่อเคลียร์พื้นที่แบบผิดกฏหมาย

วิกฤติดังกล่าวได้เกิดขึ้นกับภูมิภาคนี้เกือบทุกปีในช่วงหน้าแล้ง สร้างความตึงเครียดด้านการทูตให้กับบรรดาประเทศแถบนั้น รวมถึงมีการยกเลิกเที่ยวบิน ปิดโรงเรียน ระดับมลพิษในอากาศได้เพิ่มขึ้นจนถึงขั้นเป็นอันตราย

อย่างไรก็ตาม วิกฤติที่เกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ถือเป็นหนึ่งในครั้งที่เลวร้ายและยาวนานที่สุดในรอบหลายปี ด้วยรูปแบบสภาพอากาศเอลนีโญที่ทำให้แห้งแล้งกว่าปกติในอินโดนีเซีย

นักวิทยาศาสตร์ของนาซาเตือนว่าวิกฤติควันไฟในปีนี้มีความรุนแรงใกล้เคียงกับปี 1997 ทั้งยังอาจทวีความรุนแรงไปสู่ระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

"สภาพอากาศในสิงคโปร์และสุมาตรากำลังเข้าใกล้ระดับเดียวกับปี 1997 หากสภาพอากาศแห้งแล้งยังคงยาวนานตามที่คาดไว้ วิกฤติในปี 2015 คงจะเป็นครั้งที่ร้ายแรงที่สุดเท่าที่มีการบันทึกไว้" โรเบิร์ต ฟิลด์ กล่าว เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ที่ประจำอยู่ในสถาบันศึกษาอวกาศก็อดดาร์ดของนาซา

แฮร์รี ปูร์โนโม ผู้เชี่ยวชาญด้านหมอกควันจากศูนย์วิจัยป่าไม้สากลในอินโดนีเซีย เห็นด้วยว่าสถานการณ์ในตอนนี้คล้ายกับปี 1997

"ผมเชื่อว่าผลกระทบจากไฟในปีนี้จะเลวร้ายเท่ากับปี 1997 ในแง่ของความเสียหาย" เขาบอกเอเอฟพี

อินโดนีเซียได้จัดส่งตำรวจ-ทหาร กับบุคลากรอื่นๆ มากกว่า 20,000 นายไปสุมาตราและกาลิมันตันเพื่อจัดการกับไฟ โดยใช้ทั้งระเบิดน้ำและสารเคมีที่ทำให้เกิดฝนตก ทั้งยังหวังว่าฝนตามธรรมชาติจะมาถึงภายใน 1 เดือน ซึ่งจะช่วยดับไฟทั้งหมด

อินโดนีเซียต้องเจอกับแรงกดดันจากประเทศเพื่อนบ้านให้จัดการกับปัญหานี้มาโดยตลอด นับตั้งแต่มันเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน

มีผู้คนหลายหมื่นรายทั่วสิงคโปร์ มาเลเซียและอินโดนีเซีย ที่ต้องเข้ารับการรักษาเกี่ยวกับปัญหาระบบทางเดินหายใจจากวิกฤติควันไฟในปีนี้