รอยเตอร์ – ญี่ปุ่นซึ่งรับผู้ลี้ภัยเพียง 11 คนจาก 5,000 คำขอเมื่อปีที่แล้วจะให้เงินช่วยเหลือผู้ลี้ภัยจากซีเรียและอิรักราว 810 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 29,370 ล้านบาท) สถานีวิทยุและโทรทัศน์สาธารณะเอ็นเอชเครายงานในวันจันทร์ (28)
นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ คาดว่าจะประกาศเรื่องความช่วยเหลือนี้เมื่อเขาขึ้นกล่าวปราศรัยในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในวันพรุ่งนี้ (28) เอ็นเอชเครายงาน แต่ไม่ได้พูดถึงว่าญี่ปุ่นจะผ่อนคลายเงื่อนไขอันเข้มงวดในการรับผู้ลี้ภัยหรือไม่
เมื่อวันศุกร์ (25) องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า การไหลทะลักของผู้ลี้ภัยเข้าสู่ยุโรป ซึ่งเฉลี่ยราว 8,000 คนต่อวัน อาจไม่มีช่วงขาลง และว่า ปัญหาที่รัฐบาลต่างๆ กำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้อาจกลับกลายเป็นเพียง “ยอดภูเขาน้ำแข็ง” เท่านั้น
กระทรวงการต่างประเทศแดนอาทิตย์อุทัยประกาศในวันเดียวกันว่าจะให้เงินช่วยเหลือ 2 ล้านดอลลาร์สนับสนุนผู้ลี้ภัยชาวซีเรียและชุมชนที่ให้ที่พังพิงแก่พวกเขาในเลบานอน และอีก 2 ล้านดอลลาร์สำหรับประเทศบอลข่านตะวนตกอย่างเช่นเซอร์เบียและมาซิโดเนีย ซึ่งกำลังเผชิญกับการไหลทะลักของผู้ลี้ภัยและผู้อพยพ
ในปี 2014 ญี่ปุ่นรับผู้ลี้ภัย 11 คนจากทั้งหมด 5,000 คำขอ เมื่อต้นเดือนนี้โตเกียวประกาศว่าจะเปลี่ยนแปลงระบบผู้ลี้ภัยที่นักเคลื่อนไหวระบุว่าจะยิ่งทำให้ผู้ที่ต้องการความคุ้มครองเข้าถึงประเทศนี้ได้ยากขึ้น
สหรัฐฯ ผู้บริจาคความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมรายใหญ่ที่สุด ประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ว่าจะให้เงินเพิ่มอีก 419 ล้านดอลลาร์ ทำให้ยอดบริจาคด้านมนุษยธรรมของประเทศนี้รวมอยู่ที่กว่า 4.5 พันล้านดอลลาร์ในช่วงวิกฤตนี้
อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนการรับผู้ลี้ภัยเป็น 15,000 คนต่อปีสำหรับ 2 ปีข้างหน้า ซึ่งเผชิญกับการต่อต้านรุนแรงจากสมาชิกสภานิติบัญญัติพรรครีพับลิกันที่ยกเรื่องความหวาดกลัวการก่อการร้ายมาเป็นข้ออ้าง
