เอเอฟพี - ราคาน้ำมันขึ้นต่อในวันศุกร์(25ก.ย.) พบสิ่งบ่งชี้ว่ากำลังผลิตสหรัฐฯอาจเริ่มลดลง ส่วนดาวโจนส์ปิดพุ่งแรง ได้แรงหนุนจากผลประกอบการอันแข็งแกร่งของไนกี้ ขณะที่ทองคำปรับลดพอสมควร หลังเฟดคาดหมายว่ายังน่าจะขึ้นดอกเบี้ยภายในปี 2015
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 79 เซนต์ ปิดที่ 45.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ได้แรงหนุนส่วนหนึ่งจากการปรับเพิ่มประมาณการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจช่วงไตรมาส 2 ของสหรัฐฯ ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ ปิดที่ 48.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
น้ำมันความเคลื่อนไหวขึ้นๆลงๆตลอดทั้งสัปดาห์ สืบเนื่องจากภาพแนวโน้มอุปสงค์และอุปทานยังคงไม่ชัดเจน โดยแม้มีข้อบ่งชี้ว่าอเมริกาอาจเริ่มลดกำลังผลิตตอบสนองราคาที่ตกต่ำ แต่อีกด้านหนึ่งก็มีความกังวลต่อภาวะอุปสงค์ที่อ่อนแอเช่นกัน
ความอ่อนแอในปีนี้ของเศรษฐกิจจีน ชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ ก่อความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวลามไปทั่วเอเชีย ด้วยธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย(เอดีบี) กลายเป็นองค์กรหลักล่าสุดที่ปรับลดประมาณการณ์การขยายตัวเศรษฐกิจหมายเลข 2 ของโลกลง
แต่อีกด้านหนึ่ง นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) เมื่อวันพฤหัสบดี(24ก.ย.) แสดงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจอเมริกา อีกหนึ่งชาติผู้บริโภคพลังงานยักษ์ใหญ่ และยังคาดหมายว่าจะขึ้นดอกเบี้ยได้ในช่วงสิ้นปีนี้
จากความคาดหมายว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในปี 2015 นี้ ส่งผลให้ราคาทองคำในวันศุกร์(25ก.ย.) ปิดลบพอสมควร หลังพุ่งขึ้นกว่า 22 ดอลลาร์ หนึ่งวันก่อนหน้านี้ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 8.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,145.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันศุกร์(25ก.ย.) ปิดผสมผสาน แต่ดาวโจนส์พุ่งแรง ได้ปัจจัยหนุนจากผลประกอบการอันแข็งแกร่งของไนกี้ แต่กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีฉุดแนสแดคลงสู่แดนลบ
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 113.35 จุด (0.70 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16.314.67 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 0.90 จุด (0.05 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,931.34 จุด แนสแดค ลดลง 47.98 จุด (1.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,686.50 จุด
วอลล์สตรีทเปิดตลาดอย่างแข็งแกร่งหลังนางเยลเลน คาดหมายว่าจะขึ้นดอกเบี้ยภายในปี 2015 แต่จากนั้นก็แกว่งสู่แดนลบเกือบตลอดทั้งวัน จากแรงฉุดของกลุ่มเทคโนโลยี อย่างเช่น เฟซบุ๊ก ที่ปิดลบร้อยละ 1.7 กูเกิล ปิดลบร้อยละ 2.2 และไกลีด ไซเอนซ์ ลดลงร้อยละ 2.3
อย่างไรก็ตามดาวโจนส์ สามารถปิดบวกได้อย่างแข็งแกร่ง หลังหุ้นไนกี้ ทะยานขึ้นถึงร้อยละ 8.9 หลังมีรายได้รายไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 31 สิงหาคม เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.6 เป็น 1,200 ล้านดอลลาร์