รอยเตอร์ - ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ให้คำมั่นต่อบรรดาผู้นำธุรกิจในนครซีแอตเติลวานนี้ (22 ก.ย.)ว่า ปักกิ่งมีเจตนารมณ์แน่วแน่ที่จะปฏิรูปการคลังและสร้างระบบเศรษฐกิจแบบเปิด พร้อมเตือนว่าความขัดแย้งระหว่างปักกิ่งและวอชิงตันจะนำพาไปสู่ "หายนะ" ต่อทั้งสองประเทศและทั่วโลก
ประธานาธิบดีสี ได้ร่วมประชุมกับผู้ว่าการรัฐต่างๆ ของสหรัฐฯ รวมถึงกล่าวปาฐกถาต่อบรรดานักธุรกิจระดับผู้บริหารราว 650 คน ในงานเลี้ยงอาหารค่ำที่โรงแรมเวสต์อิน นครซีแอตเติล ซึ่งถือเป็นการเปิดฉากภารกิจเยือนสหรัฐฯ เป็นเวลา 1 สัปดาห์ของผู้นำจีน
สี ยืนยันว่าปักกิ่งจะไม่ใช้นโยบายปั่นค่าเงินเพื่อกระตุ้นการส่งออก จะไม่พัวพันกับการโจรกรรมเชิงพาณิชย์ ไม่กีดกันนักธุรกิจต่างชาติ เร่งเปิดตลาดเสรี และแก้ไขสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศ
“หากจีนและสหรัฐฯ สามารถร่วมมือกันได้ด้วยดี เราทั้งสองจะเป็นรากฐานที่สร้างเสถียรภาพให้แก่ทั่วโลก... แต่หากเราขัดแย้งหรือเผชิญหน้ากัน ก็จะนำพาไปสู่หายนะ ทั้งต่อประเทศเราทั้งสองและทั่วโลกด้วย” ผู้นำจีน กล่าว
สำหรับการไปเยือนสหรัฐฯ ในครั้งนี้ ประธานาธิบดี สี่ จิ้นผิง มีกำหนดการพบปะกับผู้นำด้านเทคโนโลยีและนักธุรกิจชั้นนำในสหรัฐฯ, ร่วมงานเลี้ยงรับรองอาหารค่ำที่ทำเนียบขาวโดยมีประธานาธิบดี บารัค โอบามา เป็นเจ้าภาพ และกล่าวปาฐกถาต่อที่ประชุมองค์การสหประชาชาติ
ผู้นำจีนถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับนโยบายบริหารเศรษฐกิจซึ่งชะลอตัวหนัก ทั้งที่เคยเติบโตได้แบบก้าวกระโดดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังถูกทวงถามเรื่องที่รัฐบาลใช้มาตรการแทรกแซงตลาดหลักทรัพย์เพื่อยับยั้งการดิ่งเหวของดัชนีหุ้นตัวสำคัญๆ ในช่วงฤดูร้อนปีนี้
เจสัน เฟอร์แมน นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสประจำทำเนียบขาว บอกกับผู้สื่อข่าวรอยเตอร์เมื่อวานนี้ (22) ว่า สหรัฐฯ จะเรียกร้องให้ สี่ หลีกเลี่ยงวิธีแก้ไขเศรษฐกิจแบบ “เร่งด่วน” เช่น การลดค่าเงินหยวนเพื่อกระตุ้นการส่งออก
การที่จีนผ่อนคลายการควบคุมค่าเงินหยวนส่งผลให้ตลาดการเงินโลกปั่นป่วนหนัก ซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ก็เตรียมที่จะหยิบยกเรื่องวิกฤตตลาดหุ้นจีนขึ้นมาหารือกับ สี่ ด้วย
ก่อนหน้านั้น มีประชาชนราว 100 คนที่สนับสนุนและต่อต้าน สี่ จิ้นผิง มายืนชุมนุมโดยสงบที่หน้าโรงแรมเวสต์อิน ซึ่งในกลุ่มผู้ประท้วงยังมีสมาชิกประมาณ 20 คนจาก “ฝ่าหลุนกง” ซึ่งเป็นองค์กรศาสนาที่อ้างว่าถูกรัฐบาลจีนกดขี่ ขณะเดียวกันก็มีผู้สนับสนุนปักกิ่งมายืนโบกธงชาติจีนและสหรัฐฯ และถือป้าย “Hello President Xi” เป็นภาษาจีน
ในบทสุนทรพจน์ที่เตรียมไว้ล่วงหน้า ผู้นำจีนได้ยกให้นครซีแอตเติลเป็นเสมือน “ประตูของอเมริกาสู่เอเชีย” โดยการเยือนครั้งนี้มีขึ้นในช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนอยู่ในช่วงเปราะบาง
จีนกับสหรัฐฯ มีข้อบาดหมางกันอยู่หลายประเด็น ทั้งในเรื่องอาชญากรรมไซเบอร์, การอ้างอธิปไตยเหนือน่านน้ำพิพาททะเลจีนใต้, การเซ็นเซอร์เว็บไซต์, ปัญหาสิทธิมนุษยชน และข้อจำกัดต่างๆ ที่ภาคธุรกิจสหรัฐฯ ยังต้องเผชิญในจีน