เอเอฟพี - รัฐบาลสายอนุรักษนิยมของแคนาดาประกาศเมื่อวันเสาร์ (19 ก.ย.) ว่า พวกเขาจะรับผู้ลี้ชาวซีเรีย 10,000 คนภายในช่วงหนึ่งปีด้วยการทำให้กระบวนการขอย้ายถิ่นเข้าประเทศรวดเร็วและง่ายดายขึ้น
เจ้าหน้าที่วีซ่าจะไม่เรียกร้องให้ผู้ยื่นคำร้องพิสูจน์ว่าพวกเขาเป็นผู้ลี้ภัยผ่านหน่วยงานผู้ลี้ภัยขององค์การสหประชาชาติอีกต่อไป แต่จะ “เหมารวมเอาว่าผู้ที่หลบหนีจากความขัดแย้งถือเป็นผู้ลี้ภัยโดยปริยาย ซึ่งจะทำให้การดำเนินการรวดเร็วขึ้น” กระทรวงตรวจคนเข้าเมืองและความเป็นพลเมืองระบุในถ้อยแถลง
ด้วยเหตุนี้ “เราจึงคาดการณ์ว่าแคนาดาจะบรรลุข้อสัญญาปัจจุบันที่จะให้ที่พักพิงชาวซีเรีย 10,000 คนได้ภายในเดือนกันยายนปี 2016 เร็วกว่าแผนเดิม 15 เดือน ข้อสัญญาของแคนาดาที่จะให้ที่พักพิงชาวอิรัก 23,000 คนก็จะถูกทำให้สำเร็จภายในสิ้นปีนี้ด้วยเช่นกัน” ถ้อยแถลงระบุ
เจ้าหน้าที่วีซ่าจะให้ความสำคัญที่การให้สัมภาษณ์ของพวกเขา “เรื่องความปลอดภัย การกระทำผิดกฎหมาย และการคัดกรองทางการแพทย์” ถ้อยแถลงระบุ
ด้วยการคัดเลือกที่แตกต่างนี้ “เรากำลังขยายโอกาสให้กับผู้ยื่นคำร้องอย่างมาก” คริส อเล็กซานเดอร์ รัฐมนตรีกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองกล่าว และเสริมว่า “เราจะมีบุคคลากรเพิ่มมากขึ้นในช่วงอีกไม่กี่วันและไม่กี่สัปดาห์ที่จะถึงนี้” เพื่อจัดการกับคำร้องขอดังกล่าว
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาพรรคอนุรักษนิยมของแคนาดาซึ่งปัจจุบันเป็นรัฐบาลถูกวิจารณ์เรื่องที่เคลื่อนไหวช้าเกินไปในการให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวซีเรียที่แห่ข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเข้าสุ่ยุโรป
บรรดาพรรคฝ่ายค้านให้สัญญาว่าหากพวกเขาได้รับเลือกเป็นรัฐบาลในการเลือกตั้งวันที่ 19 ตุลาคม พวกเขาจะมีนโยบายที่ใจกว้างต่อผู้ลี้ภัยชาวซีเรียมากกว่านี้
โพลหลายสำนักเผยให้เห็นว่าพรรคทอรีส์ของนายกรัฐมนตรี สตีเฟน ฮาร์เปอร์ อยู่ในตำแหน่งคู่คี่สูสีกับบรรดาพรรคฝ่ายกลางซ้าย หากเขาได้รับชัยชนะฮาร์เปอร์จะเป็นนายกรัฐมนตรีแคนาดารายแรกนับตั้งแต่ปี 1998 ที่ครองตำแหน่งติดต่อกัน 4 สมัยซ้อน