เอเจนซีส์ - กรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดียประสบปัญหาการระบาดของไข้เลือดออกเด็งกีที่หนักที่สุดในรอบ 5 ปี มีผู้ติดเชื้อไวรัสไปแล้วถึง 1,800 คน และมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 5 ราย เพียงแค่ในรอบไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
บีบีซี สื่ออังกฤษรายงานเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า ในขณะนี้รัฐบาลอินเดียประสบกับความยากลำบากในการรับมือการระบาดของไข้เลือดออกเด็งกีในกรุงนิวเดลี ที่มียุงเป็นพาหนะเกิดจากน้ำที่ขัง โดยล่าสุดพบมีผู้ติดเชื้อไปแล้วถึง 1,800 คน และเสียชีวิต 5 คนภายในแค่ไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ เปรียบเทียบกับจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อราว 1,695 คน ตลอดทั้งปี 2010
ทั้งนี้เป็นที่รู้กันดีว่าการระบาดมักพบมากในช่วงหน้าฝนระหว่างเดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนกันยายน
สื่ออังกฤษรายงานต่อว่า โรงพยาบาลและคลินิกทั่วกรุงนิวเดลีต่างคลาคล่ำไปด้วยผู้ป่วยแออัดรอการรักษา ในขณะที่รัฐบาลอินเดียได้สั่งการให้มีการเพิ่มเตียงคนไข้จำนวน 1,000 เตียงเพื่อรองรับสำหรับคนไข้ไวรัสเด็งกี หลังเกิดเหตุสลดฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดตึก 4 ชั้นของสองสามีภรรยาอินเดียที่สูญเสียบุตรชายวัย 7 ปีหลังจากติดเชื้อโรคร้ายที่มียุงเป็นพาหะนี้
จากการรายงานของสื่อท้องถิ่นพบว่า บุตรชายของคนทั้งคู่ถูกโรงพยาบาลเอกชนถึง 5 แห่งปฏิเสธเข้ารับการรักษา เนื่องจากมีคนไข้เป็นจำนวนมากอยู่ก่อนแล้ว และทำให้สังคมอินเดียต่างประณามและโกรธแค้นต่อเหตุสลดครั้งนี้
บีบีซีรายงานยังเพิ่มเติมอีกว่า และจากเหตุฆ่าตัวตายทำให้ Satyendar Jain รัฐมนตรีสาธารณสุขอินเดียได้ออกคำสั่งให้ตั้ง “คลินิกฉุกเฉินไข้เด็งกี” ในโรงพยาบาลเพื่อรับมือกับผู้ป่วยที่ต้องการเข้ารับการรักษาเร่งด่วน
ในขณะที่วายเค มานน์ (YK Mann) ผู้มีอำนาจสูงในฝ่ายบริหารของกรุงนิวเดลีได้เปิดเผยกับเอเอฟพีถึงสถานการณ์ล่าสุดว่า “เป็นการระบาดที่ร้ายแรงที่สุดในรอบ 5 ปี และคาดว่าจะยังคงหนักขึ้นเนื่องมาจากสภาพอากาศที่เปียกชื้นเช่นนี้”