เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ – ทางการอิหร่านเตรียมส่งออกน้ำมันล็อตใหญ่ไปยังสเปน คาด มีปริมาณไม่ต่ำกว่ายอดการส่งออกที่อิหร่านเคยทำไว้ที่ราว 200,000 บาร์เรลต่อวันในยุคก่อนที่อิหร่าน จะถูกนานาชาติคว่ำบาตรจากผลพวงของการเดินหน้าพัฒนาโครงการนิวเคลียร์
มอห์เซน กัมซารี ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายกิจการระหว่างประเทศ ของบรรษัทน้ำมันแห่งชาติของอิหร่าน (เอ็นไอโอซี) ออกมาเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวที่กรุงเตหะรานว่า อิหร่านเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันขึ้นอย่างสำคัญเพื่อรองรับคำสั่งซื้อจากสเปน
แม้ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายกิจการระหว่างประเทศของบรรษัทน้ำมันแห่งชาติของอิหร่าน จะไม่เปิดเผยว่า คำสั่งซื้อน้ำมันจากสเปนล่าสุดครอบคลุมถึงปริมาณน้ำมันมากน้อยเพียงใด แต่ก็มีการเปิดเผยว่า อิหร่านอาจเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพื่อการส่งออกให้เท่ากับช่วงก่อนที่อิหร่านจะถูกคว่ำบาตรนั่นคือ การส่งออกน้ำมันที่ระดับ 200,000 บาร์เรลต่อวัน
อย่างไรก็ดี รายงานข่าวระบุว่า อิหร่านยังจำเป็นต้องรอให้มาตรการคว่ำบาตรทั้งหลาย ถูกยกเลิกอย่างสมบูรณ์เสียก่อนแล้วจึงค่อยพิจารณาอย่างจริงจังถึงจำนวนน้ำมันที่เหมาะสมสำหรับส่งออกไปยังสเปนต่อไป
กัมซารีระบุเพิ่มเติมว่า การส่งออกน้ำมันจากอิหร่านไปยังยุโรปในอนาคตนั้น น้ำมันในส่วนนี้จะจัดสรรมาจากแผนปรับเพิ่มกำลังการผลิตของอิหร่านซึ่งคาดว่าจะสามารถผลิตน้ำมันดิบได้มากกว่า 500,000 บาร์เรลต่อวัน
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของทางการอิหร่านถูกระบุว่า มีขึ้นภายหลังจากการเดินทางเยือนกรุงเตหะรานเมื่อวันจันทร์ ( 7 ก.ย.) ที่ผ่านมาของโฮเซ มานูเอล โซเรีย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พลังงานและการท่องเที่ยวของสเปน ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับคณะผู้แทนภาคธุรกิจจากแดนกระทิงดุกว่า 70 ชีวิต ที่ได้เข้าพบหารือกับบิจาน ซานเกเนห์ รัฐมนตรีน้ำมันของอิหร่าน
เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา บิจาน ซานเกเนห์ รัฐมนตรีกระทรวงปิโตรเลียมของอิหร่านออกมาระบุว่า อิหร่านจะสามารถผลิตน้ำมันออกสู่ตลาดโลกได้ราว 500,000 บาร์เรลต่อวันในช่วง 2 เดือนแรก หลังมาตรการคว่ำบาตรทั้งปวงถูกยกเลิก ก่อนที่จะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตแตะระดับ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ภายในระยะเวลา 6 เดือน
ด้านแหล่งข่าวทางการทูตในกรุงเตหะราน ระบุว่า รัฐบาลอิหร่านไม่รู้สึกกังวลแต่อย่างใด ต่อราคาน้ำมันที่ตกต่ำในตลาดโลกในเวลานี้ และพร้อมส่งออกน้ำมันของตนในทันที โดยจะไม่รอให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกถีบตัวสูงขึ้น
ก่อนหน้านี้ อับดุลเลาะห์ อัล-บาดรี เลขาธิการใหญ่กลุ่มโอเปก ออกโรงยืนยันว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกซึ่งทำสถิติดิ่งลงถึง “จุดต่ำสุด” ในรอบ 6 ปีครึ่ง มีแนวโน้มที่อาจดีดตัวสูงขึ้นได้ในไม่ช้า และยืนยันว่า ทางกลุ่มโอเปกตัดสินใจถูกแล้วที่ไม่ลดกำลังการผลิตเพื่อปั่นราคาในช่วงที่ผ่านมา
อัล-บาดรี ซึ่งเป็นชาวลิเบีย และอยู่ในตำแหน่งเลขาธิการใหญ่กลุ่มโอเปก มาตั้งแต่ปี 2007 เผยต่อผู้สื่อข่าวที่กรุงเวียนนาของออสเตรีย โดยแสดงความเชื่อมั่นว่า ระดับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเวลานี้ ซึ่งโดยเฉลี่ยจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ราว 45 - 55 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรลนั้น ถือว่าเป็นระดับราคาที่ต่ำที่สุดแล้ว และจะไม่มีการดิ่งลงของราคาน้ำมันอีก พร้อมเผยมีความเป็นไปได้ที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกอาจดีดตัวสูงขึ้นในไม่ช้า
เลขาธิการใหญ่กลุ่มโอเปก ยืนยันว่า ในช่วงที่ผ่านมาสมาชิกกลุ่มโอเปกได้ตัดสินใจถูกต้องแล้วที่รักษาจุดยืน ในการไม่ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน เนื่องจากหากกลุ่มโอเปกตัดสินใจเช่นนั้น จะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อตลาดพลังงาน การค้า การลงทุนทั่วโลก และจะทำให้ผู้บริโภคทั่วโลกได้รับความเดือดร้อนอย่างที่ไม่ควรจะเป็น พร้อมย้ำ สมาชิกกลุ่มโอเปกควรให้ความสำคัญกับการลงทุนในแหล่งพลังงานใหม่ ๆ แทนการเป็นกังวลกับระดับราคาน้ำมันที่ต่ำเตี้ยในปัจจุบัน
อย่างไรก็ดี อัล-บาดรี ระบุว่า ทางกลุ่มโอเปกอาจต้องหารือกันอีกครั้งในอีก 4 - 5 เดือนข้างหน้า หากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังไม่มีวี่แววกระเตื้องขึ้นสู่ระดับราคาที่ควรจะเป็น