เอเอฟพี - บราซิลจะต้อนรับผู้ลี้ภัยชาวซีเรียด้วยความอบอุ่นและไมตรีจิต ประธานาธิบดีดิลมา รูสเซฟ ประกาศเมื่อวานนี้ (7 ก.ย.) ในขณะที่บรรดาชาติละตินอเมริกาต่างพยายามหยิบยื่นความช่วยเหลือให้กับคลื่นมนุษย์เหล่านี้ที่หลบหนีลี้ภัยสงครามที่เผาผลาญประเทศของพวกเขา
ในข้อความทางโทรทัศน์เนื่องในวันประกาศอิสรภาพของแดนแซมบ้า รูสเซฟกล่าวว่า เธอต้องการ “ย้ำความตั้งใจของรัฐบาลที่จะต้อนรับผู้ที่ถูกบีบให้ต้องจากประเทศบ้านเกิดซึ่งต้องการที่จะเข้ามาอาศัย ทำงาน และมีส่วนช่วยสร้างความรุ่งโรจน์และสันติภาพของบราซิล”
“โดยเฉพาะในช่วงเวลาอันยากลำบากและวิกฤตเช่นนี้ เราต้องต้อนรับผู้ลี้ภัยด้วยความอบอุ่นและไมตรีจิต” เธอกล่าวเสริม
ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ของเวลาซุเอลาสั่งให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการรับชาวซีเรีย 20,000 คนเข้าประเทศ
ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีมิเชล บาเชเลต ของชิลี ระบุว่าประเทศของเธอก็เต็มใจที่จะรับผู้ลี้ภัยเช่นกัน โดยไม่ได้ระบุชัดเรื่องจำนวนหรือสัญชาติ บาเชเลตกล่าวว่า “ตลอดช่วงประวัติศาสตร์ของเรา เรามักเปิดประตูรับผู้ซึ่งบางครั้งก็มาจากสถานที่ที่ห่างออกไปแสนไกล และหลอมรวมประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งในโครงสร้างของชาติเรา”
เมื่อไม่นานมานี้บรรดาผู้นำชุมชนชาวอาหรับในชิลีซึ่งมีจำนวนราว 300,000 คนได้เสนอแผนต่อรัฐบาลที่จะให้ที่พักพิงและการสนับสนุนต่อผู้ลี้ภัยชาวซีเรียราว 100 ครอบครัว
แดนแซมบ้ารับผู้ลี้ภัยชาวซีเรียมาแล้วกว่า 2,000 คนนับตั้งแต่ความขัดแย้งในซีเรียเริ่มขึ้นในปี 2011 ซึ่งนับว่ามากกว่าประเทศอื่นใดในลาตินอเมริกา ในปัจจุบันชาวซีเรียเป็นกลุ่มผู้ลี้ภัยกลุ่มใหญ่ที่สุดในบราซิล ในปี 2012 เพียงปีเดียว มีชาวซีเรียได้รับสถานะผู้ลี้ภัยถึง 1,405 คน
เมื่อ 2 ปีที่แล้ว บราซิลได้เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการการรับผู้ลี้ภัยชาวซีเรียภายใต้โครงการหนึ่งซึ่งเดิมทีมีกำหนดสิ้นสุดในเดือนนี้ สื่อท้องถิ่นรายงานโดยอ้างจากคำพูดของ บีโต วาสดงแซลูส อัยการสูงสุดว่า รัฐบาลกำลังพิจารณาขยายมาตรการดังกล่าว
รูสเซฟยังพูดถึงภาพศพของหนูน้อยชาวซีเรียที่เกยตื้นบนชายหาดตุรกีซึ่งถูกพูดถึงอย่างแพร่หลายเมื่อสัปดาห์ที่แล้วและนับตั้งแต่นั้นมาก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของวิกฤตผู้อพยพครั้งนี้ โดยระบุว่า “ภาพของหนูน้อย ไอลัน เคอร์ดี อายุ 3 ขวบสะเทือนใจพวกเราทุกคน และแสดงให้โลกตระหนักถึงความท้าทายใหญ่หลวง”