รอยเตอร์ - สื่อต่างประเทศรายงานทางการไทยออกหมายจับผู้ต้องสงสัยเพิ่มเติมในวันจันทร์ (7 ก.ย.) และสอบปากคำชายชาวอินเดีย 2 คนที่ถูกพบเห็นที่อพาร์ตเมนต์ซึ่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจยึดวัตถุระเบิด ทำให้การสืบสวนเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ยิ่งซับซ้อนและยังคงเป็นปริศนาต่อไป
รอยเตอร์อ้างคำบอกเล่าของตำรวจระบุว่า ชายชาวอินเดียไม่ได้ถูกควบคุมตัวและแค่ให้ปากคำต่อทหารในเรื่องเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวต่างๆ ของพวกเขาก่อนหน้าเกิดเหตุระเบิดที่ศาลพระพรหมเอราวัณ คร่าชีวิตผู้คน 20 ศพเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม
“ภาพจากกล้องวงจรปิดพบเห็นชาย 2 คนเข้าๆ ออกๆ ห้องที่อยู่ติดกันบ่อยครั้ง ก่อนหน้าเกิดเหตุระเบิด” เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงเขตมีนบุรีให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์อ้างถึง 1 ใน 2 ห้องเช่าของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งซึ่งตำรวจเข้าตรวจค้นและพบวัตถุทำระเบิดก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์รายงานว่า ตำรวจไทยยังไม่ใกล้เคียงที่จะสามารถระบุถึงแรงจูงใจของเหตุระเบิดครั้งเลวร้ายที่คร่าเหยื่อชาวต่างชาติ 14 ราย ในหนึ่งในย่านการค้าที่พลุกพล่านที่สุดของกรุงเทพฯ
รายงานของรอยเตอร์ระบุต่อว่า คณะสืบสวนเริ่มต้นจากการพุ่งเป้าไปที่ชายเสื้อเหลืองที่ถูกกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ขณะกำลังแอบวางกระเป๋าสะพายที่ศาลพระพรหมก่อนเกิดระเบิด แต่ดีเอ็นเอที่ได้จากเศษกระเป๋าเป้ แท็กซี่ และธนบัตรที่ผู้ต้องสงสัยใช้กลับพบว่าไม่ตรงกัน
รอยเตอร์บอกว่า ตำรวจกำลังสอบปากคำชาวต่างชาติ 2 คนที่ถูกจับกุมเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งยังไม่มีการยืนยันชื่อและสัญชาติของพวกเขา โดยตำรวจมีหลักฐานทางนิติเวชศาสตร์เชื่อมโยงกับพาสสปอร์ตปลอมจำนวนมากและวัตถุทำระเบิดที่พบในอพาร์ตเมนต์ แต่ก็ไม่มีอะไรโยงพวกเขากับเหตุระเบิดที่ศาลพระพรหม ขณะที่ในวันจันทร์ (7 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับชาวต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับห้องเช่าดังกล่าวเพิ่มเติมอีก 2 คน
ตามรายงานของรอยเตอร์ระบุว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงชี้ว่าเหตุระเบิดอาจเป็นการโจมตีแก้แค้นของเหล่าผู้เห็นอกเห็นใจชาวมุสลิมอุยกูร์ที่พูดภาษาตุรกีจากมณฑลซินเจียง ที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากการถูกตามประหัตประหารโดยทางการจีน โดยไทยถูกนานาชาติรุมประณามต่อกรณีบังคับเนรเทศชาวอุยกูร์ 109 คนกลับไปยังจีน ขณะที่คนเหล่านั้นหวังใช้ไทยเป็นทางผ่านเพื่อมุ่งหน้าสู่ตุรกี