เอเจนซีส์ - ฮิลลารี คลินตัน อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยอมรับว่า ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะ “ไม่ใช้อีเมลส่วนตัว” ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี และรู้สึกเสียใจที่เรื่องนี้ก่อให้เกิดความสับสนวุ่นวายขึ้น
“ดิฉันเสียใจที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายนี้ขึ้น” เธอให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าว MSNBC เมื่อวันศุกร์ (4 ก.ย.)
“ดิฉันขอยอมรับผิด ดิฉันควรจะมีบัญชีอีเมล 2 บัญชี สำหรับใช้ส่วนตัวหนึ่ง และเรื่องงานอีกหนึ่ง”
อย่างไรก็ตาม เธอยังยืนกรานเหมือนที่เคยพูดมาตั้งแต่แรกว่า เธอ “ได้รับอนุญาตให้ใช้” อีเมลดังกล่าว และ “โปร่งใสซื่อสัตย์ทุกอย่าง”
การถูกเปิดโปงว่าใช้อีเมลส่วนตัวขณะปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีส่งผลกระทบไม่น้อยต่อชื่อเสียงของคลินตัน ซึ่งเป็นผู้สมัครตัวเก็งของพรรคเดโมแครตในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2016 โดยนักวิจารณ์หลายคนชี้ว่า การสื่อสารผ่านอีเมลส่วนตัวไม่ปลอดภัยพอ ขัดต่อนโยบายของรัฐบาล และอาจมีจุดประสงค์เพื่อปกปิดความผิดในการทำงานของคลินตัน
นักวิเคราะห์การเมืองรวมถึงสมาชิกในพรรคเดโมแครตบางคน ระบุว่า ข่าวอื้อฉาวนี้ทำให้การรณรงค์หาเสียงของ คลินตัน ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร อีกทั้ง คลินตัน เองยังหยิบยกเรื่องอีเมลมาพูดให้เป็นเรื่องตลกขำขัน ซึ่งทำให้คนส่วนใหญ่มองว่าเธอไม่สำนึกผิด
ล่าสุด คลินตัน ตัดสินใจแสดงความรับผิดชอบผ่านการให้สัมภาษณ์กับ MSNBC เมื่อวานนี้ (4) โดยยอมรับว่า เธอไม่ได้ “หยุดคิดใคร่ครวญ” ว่าการใช้อีเมลส่วนตัวจะถูกมองอย่างไร
ผลสำรวจความคิดเห็นในสหรัฐฯ พบว่า มีชาวอเมริกันจำนวนไม่น้อยมองว่า คลินตัน “ไม่น่าไว้วางใจ” ซึ่งสาเหตุหนึ่งก็มาจากเรื่องอีเมลนี่เอง
ตามกฎหมายรัฐบาลกลางสหรัฐฯ อีเมลติดต่อระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐถือเป็นทรัพย์สินของรัฐบาล และรัฐก็สนับสนุนให้พนักงานทุกคนใช้บัญชีอีเมลอย่างเป็นทางการที่หน่วยงานออกให้ แต่ในอดีตก็เคยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนที่เลือกใช้อีเมลส่วนตัวเหมือนกับ คลินตัน
เมื่อเดือนมีนาคม คลินตันและทนายความของเธอได้ทำการคัดเลือกอีเมลที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน หลังกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ร้องขอตรวจสอบบันทึกอีเมลของอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศหลายคน
คลินตัน กล่าวว่า อีเมลที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่มีอยู่ราวๆ ครึ่งหนึ่งจากกว่า 60,000 ฉบับ ซึ่งทั้งหมดถูกส่งในช่วงที่เธอดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ ส่วนอีเมลที่เธอคิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัวก็ถูกลบทิ้งไป
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ก็ทยอยเปิดเผยอีเมลดังกล่าวให้สาธารณชนรับทราบประมาณเดือนละ 1 ชุด