เอเจนซีส์ – จากการรายงานล่าสุดขององค์การนิรโทษสากล แอมเนสตี พบว่านักโทษในซาอุดีอาระเบียถูกประหารชีวิตภายใต้การครองราชย์ของสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลอห์ บิน อับดัลอะซิซ อาล สะอูด กษัตริย์ซาอุดีอาระเบียพระองค์ใหม่ในอัตราเฉลี่ย ประหารชีวิตนักโทษ 1 คนในทุก 2 วัน โดยแค่ครึ่งปีแรกของปี 2015 รัฐบาลซาอุฯได้ประหารชีวิตไปแล้วถึง 102 คน
ดิอินดีเพนเดนต์ สื่ออังกฤษรายงานในวันอังคาร(26) ตลอดทั้งปี 2014 ซาอุดีอาระเบียสั่งประหารนักโทษไปแล้วจำนวนไม่ต่ำกว่า 175 คน และเฉพาะแค่ครึ่งปีแรกของปี 2015 มีนักโทษถึง 102 คนถูกสั่งตัดศรีษะ และเป็นสถิติที่สูงที่คาดว่าอาจลบจำนวนสถิตินักโทษประหารชีวิตที่ถูกลงโทษในปี 1995 ที่มีสูงถึง 195 คน
โดยสื่ออังกฤษชี้ว่า นักโทษประหารเหล่านี้รวมไปถึงผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 18 ปีในระหว่างที่ถูกตั้งข้อกล่าวหา และผู้พิการ
ทั้งนี้องค์การนิรโทษสากล แอมเนสตี ร่วมมือกับเอเอฟพี สื่อฝรั่งเศส ได้บันทึกสถิติการลงโทษประหารชีวิตของซาอุดีอาระเบีย โดยพบว่าสถิติการสั่งประหารชีวิตของซาอุดีอาระเบียเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าตกไปตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2014 และดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และยังคงสูงอย่างต่อเนื่องภายใต้การปกครองของสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลอห์ บิน อับดัลอะซิซ อาล สะอูด กษัตริย์ซาอุฯพระองค์ใหม่นับตั้งแต่มกราคม 2015
จากรายงานของแอมเสตีจำนวน 44 หน้าที่ถูกเผยแพร่ในวันอังคาร(25) พบว่าซาอุดีอาระเบียได้สั่งลงโทษประหารชีวิตนักโทษตั้งแต่ปี 1985 เป็นต้นมา มีจำนวนมากไม่ต่ำกว่า 2,208 คน
และเกือบครึ่งของทั้งหมด หรือ 48.5% เป็นชาวต่างชาติ และเอมเสตีชี้ว่า มากกว่า 1 ใน 4 หรือราว 28% นับตั้งแต่ปี 1991เป็นต้นมา เป็นนักโทษกระทำผิดเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
นอกจากนี้ยังพบว่า โทษประหารชีวิตในซาอุดีอาระเบียนั้นไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากล เพราะผู้ที่กระทำผิดคดีชู้สาว การเลิกนับถือศาสนาอิสลาม และตวามผิดในเรื่องพ่อมดหมอผี และการทำนายชะตาชีวิต
แอมเนสตีกล่าวต่อผ่านรายงานว่า การตัดศรีษะเป็นวิธีที่รัฐบาลซาอุดีอาระเบียนิยมใช้มากที่สุดในการลงโทษประหารชีวิต ถึงแม้จะมีนักโทษบางส่วนถูกลงโทษด้วยการยิงเป้าก็ตาม
สื่ออังกฤษรายงานว่า ซาอุฯถือเป็นชาติที่ติดอันดับสูงสุดในบรรดาหนึ่งในชาติที่ใช้วิธีการประหารชีวิตนักโทษในปีที่ผ่านมา ร่วมกับชาติอื่นๆ โดยซาอุฯถูกจัดลำดับตามหลังจีนและอิหร่าน แต่ทว่ามีอันดับสูงกว่าอิรักและสหรัฐฯ