เอเอฟพี - ราคาน้ำมันเมื่อวันอังคาร (25 ส.ค.) ฟื้นตัวเล็กน้อย หลังร่วงหนักหนึ่งวันก่อนหน้านี้จากความกังวลต่อภาวะเปราะบางของเศรษฐกิจจีน อย่างไรก็ตาม ปัจจัยดังกล่าวยังห้อมล้อมตลาดทุนสหรัฐฯ และฉุดให้วอลล์สตรีทปิดลบหนักต่ออีกวัน ส่วนทองคำปิดลบแรงจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 1.07 ดอลลาร์ ปิดที่ 39.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังร่วงลงต่ำกว่า 40 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปีเมื่อวันจันทร์ (24 ส.ค.) ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 52 เซ็นต์ ปิดที่ 43.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นักวิเคราะห์มองว่า ตลาดยังคงพุ่งเป้าไปที่กำลังผลิตอันแข็งแกร่งของเหล่าประเทศสมาชิกโอเปก โดยเฉพาะซาอุดีอาระเบีย เช่นเดียวกับสหรัฐฯ หลังจากก่อนหน้านี้โอเปกปฏิเสธลดกำลังผลิตขณะพยายามรักษาส่วนแบ่งตลาด ส่วนอเมริกาก็ไม่ยอมลดกำลังผลิตเช่นกันแม้เผชิญกับภาวะตกต่ำของราคาน้ำมัน
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังจับตาไปที่รายงานคลังสำรองทางปิโตรเลียมรายสัปดาห์ของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ที่มีกำหนดเผยแพร่ในวันพุธ (26 ส.ค.) ซึ่งจะบ่งชี้ถึงทิศทางของอุปสงค์ภายในชาติผู้บริโภครายใหญ่ของโลกแห่งนี้
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันอังคาร (25 ส.ค.) ปิดลบเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน แม้มีทีท่าฟื้นตัวในตอนเช้า โดยนักวิเคราะห์มองว่ายังคงอกสั่นขวัญแขวนจากการที่ดาวโจนส์ร่วงลงหนักกว่า 1,000 จุด ในช่วงหนึ่งของการซื้อขายวันจันทร์ (24 ส.ค.)
ดาวโจนส์ ลดลง 204.91 จุด (1.29 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15.666.44 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 25.60 จุด (1.35 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,867.61 จุด แนสแดค ลดลง 19.76 จุด (0.44 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,506.49 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เปิดตลาดในแดนบวกและทรงตัวอยู่อย่างนั้นเกือบตลอดทั้งวัน ทว่าได้แกว่งตัวสู่แดนลบในชั่วโมงสุดท้ายของการซื้อขาย เหตุเพราะวอลล์สตรีทยังคงอกสั่นขวัญแขวนจากการร่วงลงอย่างหนักเมื่อเร็วๆ นี้ โดยเฉพาะในวันจันทร์ (24 ส.ค.) ที่เห็นดาวโจนส์ ดิ่งลงในช่วงหนึ่งของการซื้อขายมากกว่า 1,000 จุด
บิล ลินซ์ ผู้จัดการด้านการลงทุนของฮินส์เดล แอสโซซิเอทส์ ให้ความเห็นว่า “ความกังวลยังคงแผ่ซ่านตามหลังสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ผมไม่สามารถคาดคะเนได้ว่าตลาดในวันพรุ่งนี้หรือสัปดาห์หน้าจะเป็นอย่างไร แต่แน่นอนว่ามันคงผันผวน อย่างไรก็ตาม ผมหวังว่า 2 หรือ 3 เดือนผ่านไป ตลาดจะคืนสู่ภาวะเสถียร”
การปรับลดของตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีขึ้นแม้ว่าธนาคารกลางของจีน เมื่อวันอังคาร (25 ส.ค.) ดำเนินการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายและอัตราเงินสำรองของธนาคารพาณิชย์ ในมาตรการล่าสุดที่มีเป้าหมายกระตุ้นเศรษฐกิจหมายเลข 2 ของโลก ขณะที่พวกเขากำลังต่อสู้กับการพังครืนของตลาดหุ้น ความเคลื่อนไหวที่ช่วยพยุงให้ตลาดทุนอื่นๆ ฟื้นตัว
อย่างไรก็ตาม ด้วยความเคลื่อนไหวลดดอกเบี้ยของจีนช่วยก่อความเสถียรแก่ตลาดอื่นๆ ทั่วโลกและดันดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ก็ฉุดให้ทองคำขยับลง 2 วันติดต่อกันเมื่อวันอังคาร (25 ส.ค.) แตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 สัปดาห์ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 15.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,138.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์