เอเจนซีส์ - เกิดเหตุระเบิดดังสนั่นต่อเนื่องที่โกดังแห่งหนึ่งของฐานทัพทหารสหรัฐฯในเมืองซางามิฮาระ ใกล้ๆ กรุงโตเกียวเมื่อคืนวันอาทิตย์ (23 ส.ค.) จากนั้นไฟก็ลุกไหม้อยู่ตลอดทั้งคืน ต่อมาตอนสายวันจันทร์ (24) โรงงานเหล็กกล้าซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ ท่าอากาศยานฮาเนดะ ของเมืองหลวงญี่ปุ่นก็เกิดเพลิงโหมฮือครั้งใหญ่ ยังไม่มีรายงานว่าเหตุการณ์ 2 ครั้งนี้เกี่ยวข้องกันหรือไม่
เหตุระเบิดที่โกดังใหญ่ ซางามิ ของกองทัพบกสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ในเมืองซางามิฮาระ ที่อยู่ห่างจากโตเกียวไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 40 กิโลเมตร ทำให้เกิดประกายไฟพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า และยังเป็นชนวนให้เกิดไฟไหม้ซึ่งเผาผลาญอยู่ตลอดทั้งคืน ทว่าไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทั้งของญี่ปุ่นและอเมริกา ได้ชะลอการดับเพลิงและเตรียมพร้อมอยู่ในที่เกิดเหตุพร้อมอุปกรณ์ดับเพลิงกว่า 10 เครื่อง ระหว่างตรวจสอบข้อมูลว่า ในคลังดังกล่าวจัดเก็บสิ่งใดอยู่ จนในที่สุดไฟมอดดับไปเองหลังผ่านไป 6 ชั่วโมงนับจากเกิดเหตุระเบิดเมื่อเวลาเกือบ 1.00 น. วันจันทร์ (24) หรือเวลาไทยประมาณ 23.00 น. วันอาทิตย์
ภาพวิดีโอเผยให้เห็นประกายไฟขนาดใหญ่ ซึ่งอาจเป็นกระป๋องหรือถังโลหะ พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าราวกับเป็นพลุดอกไม้ไฟอยู่เป็นระยะ จากกองไฟแดงฉานมหึมาซึ่งลามไปบนหลังคาโกดังที่เป็นอาคารคอนกรีตชั้นเดียว และต่อมาหลังคาบางส่วนได้ยุบลง
ผู้หญิงคนหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์ให้สัมภาษณ์สถานีทีวีเอ็นเอชเคว่า ได้ยินเสียงระเบิดกึกก้องติดกันหลายครั้งราว 10-15 นาที และเห็นประกายไฟสีส้มพุ่งขึ้นไปบนฟ้า พยานผู้นี้ยังบอกอีกว่า ไม่มีควันไฟแต่ได้กลิ่นคล้ายดินปืน
ขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในท้องถิ่นผู้หนึ่งกล่าวกับสำนักข่าวจีจิเพรสว่า เสียงระเบิดและเพลิงที่ไหม้ ทำให้ในตอนนั้นเขาคิดว่าโกดังของทหารอเมริกันดังกล่าว ซึ่งอยู่ใกล้สถานีรถไฟ ถูกผู้ก่อการร้ายโจมตี
โกดังทหารแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 2 ตารางกิโลเมตร และว่าจ้างพนักงานเกือบ 600 คน เป็นที่เก็บวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ และใช้เป็นศูนย์ซ่อมแซมยานยนต์ทหาร โดยแรงระเบิดที่เกิดขึ้นมาจากเหตุคราวนี้ ทำให้หน้าต่างของพวกอาคารที่อยู่ใกล้เคียงอยู่ในอาการสั่นสะท้าน
ทางด้านกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงว่า ยังไม่รู้สาเหตุของการระเบิด แต่ยืนยันว่าอาคารแห่งนั้นไม่ได้เก็บกระสุนหรือวัสดุกัมมันตรังสี มีเพียงถังก๊าซอัดซึ่งบรรจุก๊าซไนโตรเจน ออกซิเจน ฟรีออน และอากาศ
ต่อมาในตอนสายวันจันทร์ได้เกิดไฟไหม้โรงงานท่อเหล็กกล้าใกล้ท่าอากาศยานนานาชาติฮาเนดะของโตเกียว ซึ่งอยู่ในจังหวัดเดียวกับคลังเก็บอาวุธอเมริกันที่เกิดระเบิด ทว่า ตำรวจท้องถิ่นปฏิเสธที่จะคาดเดาว่า สองเหตุการณ์นี้มีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่
แผนกดับเพลิงเมืองคาวาซากิเผยว่า เหตุเพลิงไหม้โรงงานดังกล่าวซึ่งเป็นของบริษัทในเครือนิปปอน สตีล แอนด์ ซูมิโตโม เมทัล อาจเกิดจากพนักงานที่ใช้เครื่องพ่นไฟแก๊ส เพื่อรื้อถอนโรงงานซึ่งหยุดดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน และขณะเกิดเหตุมีคนงานอยู่ในโรงงานเพียงไม่กี่คน
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเผยว่า ไฟลุกไหม้มาจากหอหล่อเย็นขนาด 2 เมตร โดยเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุครั้งแรกเมื่อเวลา 11.36 น. วันจันทร์ (09.36 น.ตามเวลาไทย) และไฟลามไปยังโรงงานเครื่องสำอางคาโอที่อยู่ถัดไป ทำให้ต้องอพยพพนักงาน 600 คนออกจากโรงงาน
ทั้งสองเหตุการณ์นี้บังเกิดขึ้นขณะที่รัฐบาลนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ กำลังขัดแย้งกับรัฐบาลท้องถิ่นเกาะโอกินาวะ เรื่องแผนการย้ายฐานทัพฟูเทนมะของนาวิกโยธินอเมริกัน ไปยังอีกบริเวณหนึ่งบนเกาะที่มีผู้อยู่อาศัยน้อย โดยที่เรื่องนี้อาจทำให้เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยสำหรับผู้ที่อาศัยใกล้ฐานทัพอเมริกัน
นอกจากนี้ เหตุระเบิดและไฟไหม้ใกล้โตเกียวครั้งนี้ยังเกิดขึ้นหลังจากเกิดระเบิดและไฟไหม้ครั้งใหญ่ในโกดังเก็บสารเคมีอันตรายในท่าเรือเทียนจินของจีนเมื่อวันที่ 12 ที่ผ่านมา ที่มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 123 ราย
ทั้งนี้ อเมริกาที่ทำหน้าที่ผู้รับประกันความปลอดภัยของญี่ปุ่นมาตลอด 70 ปีนั้น มีทหารประจำการในแดนปลาดิบ 47,000 คน อันเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นพันธมิตรทางทหาร และรัฐธรรมนูญใฝ่สันติที่อเมริการ่างขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ห้ามกองทัพญี่ปุ่นทำการรบ เว้นแต่เป็นการป้องกันประเทศเท่านั้น