เอเอฟพี - ศาลอินโดนีเซียสั่งให้กองทุนแห่งหนึ่งซึ่งก่อตั้งโดยนายซูฮาร์โต อดีตประธานาธิบดีจอมเผด็จการของอินโดนีเซีย จ่ายเงินคืนจำนวน 325 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 11,000 ล้านบาท) ที่ฉ้อโกงกองทุนรัฐไป เจ้าหน้าที่เปิดเผยในวันอังคาร (11 ส.ค.)
ซูฮาดี โฆษกของศาลระบุว่า ศาลฎีกาพิพากษาว่ากองทุนด้านการศึกษาแห่งหนึ่งซึ่งดูแลโดยครอบครัวของนายซูฮาร์โต ต้องคืนเงินจำนวนดังกล่าวกลับเข้ารัฐ
นายพลซูฮาร์โตปกครองอินโดนีเซียด้วยระบบเผด็จการเบ็ดเสร็จยาวนานกว่า 3 ทศวรรษ จนกระทั่งเขาถูกโค่นล้มจากการประท้วงของประชาชนในปี 1998
องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ซึ่งเฝ้าระวังด้านคอร์รัปชัน ตราหน้าว่านายซูฮาร์โตเป็นผู้นำทุจริตที่สุดตลอดกาล โดยอ้างว่าเขาปล้นเงินประเทศระหว่างที่เขายังเรืองอำนาจราว 1,500 ล้านดอลลาร์ (ราว 52,000 ล้านบาท) ถึง 3,500 ล้านดอลลาร์ (ราว 122,425 ล้านบาท)
โฆษกของศาลเผยต่อว่า คำพิพากษาของศาลซึ่งมีคำตัดสินตั้งแต่เดือนที่แล้ว แต่เพิ่งเปิดเผยต่อสาธารณชนในสัปดาห์นี้ เกี่ยวข้องกับกองทุนซูเปอร์เซมา โดยกองทุนแห่งนี้จัดตั้งขึ้นเพื่อมอบทุนการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยแก่เด็กที่มาจากครอบครัวยากจน แต่ในคำฟ้องทางแพ่งที่ยื่นโดยอัยการสูงสุดกล่าวหาว่าครอบครัวของนายซูฮาร์โต ใช้กองทุนดังกล่าวยักยอกเงินรัฐ
รายงานของหนังสือพิมพ์จาการ์ตาโกลบระบุว่า คำพิพากษาล่าสุดนี้ถือเป็นการกลับคำตัดสินเมื่อปี 2010 ที่ศาลเคยมีคำสั่งให้กองเงินจ่ายเงินคืนแก่รัฐเพียงเล็กน้อย แค่ 320,000 ดอลลาร์ (ราว 11 ล้านบาท)
ฮวน เฟลิกซ์ ทัมบูโพโลน ทนายความครอบครัวซูฮาร์โต บอกว่าทีมกฎหมายยังไม่ได้รับคำพิพากษาของศาลฎีกาอย่างเป็นทางการ และจะตัดสินใจอีกทีว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปหลังจากได้เห็นเอกสารคำตัดสินแล้ว
ซูฮาร์โต เสียชีวิตด้วยสาเหตุทางธรรมชาติในปี 2008 แต่ยังคงมีความโกรธแค้นสุมอยู่ในอกของชาวอินโดนีเซีย ต่อการปกครองของเขาในช่วงท้ายและครอบครัวของอดีตผู้นำจอมเผด็จการรายนี้ โดยลูกๆของเขา 6 คนต่างถูกกล่าวหากอบโกยความมั่งคั่ง จากการได้สิทธิพิเศษในการเข้าถึงธุรกิจที่มีผลกำไร ในช่วง 3 ทศวรรษที่เขาปกครองประเทศ ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของการคอร์รัปชันอย่างมโหฬาร