เอเอฟพี/ เอเจนซีส์ /เอพี - วันนี้ (4 ส.ค.) เกิดเหตุสลด อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งอายุไม่ต่ำกว่า 50 ปี ที่มีขนาด 3 ชั้น ตั้งอยู่นอกเมืองมุมไบ ศูนย์กลางการเงินของอินเดีย เกิดถล่มลงมา หลังจากฝนตกหนักก่อนหน้านี้ มีผู้เสียชีวิต 12 ราย และถือเป็นโศกนาฏกรรมครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์
เจ้าหน้าที่กู้ภัยอินเดียสามารถดึงร่างผู้รอดตายชาวอินเดียจำนวน 7 รายออกมาจากใต้ซากอิฐปรักหักพังได้สำเร็จ หลังจากตึกขนาด 3 ชั้นได้เกิดถล่มลงมาในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมาซึ่งมีฝนตกหนักก่อนหน้านั้น เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผู้พักอาศัยที่อยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวกำลังพักผ่อน หน่วยกู้ภัยอินเดียแถลง เอพีรายงาน
ในขณะที่อาล็อก อาวาสธี (Alok Avasthy) เจ้าหน้าที่หน่วยจัดการฉุกเฉินอินเดียให้ความเห็นกับเอเอฟพีว่า “การกู้ภัยได้สิ้นสุดลงในเวลาช่วงเช้าราว 10.20 น.ของวันนี้ (4) และสามารถลำเลียงผู้เสียชีวิตทั้งหมดจำนวน 12 ศพออกมาได้สำเร็จ”
จากการรายงานของเอเอฟพีพบว่า ตึกแห่งนี้ซึ่งตั้งอยู่ในย่านนาอูปาดา (Naupada) เมืองธาเน (Thane) ใกล้กับมุมไบ ได้เกิดถล่มลงมาในเวลา 02.00 น.
“เป็นตึกที่มีอายุยไม่ต่ำกว่า 50ปี ซึ่งอยู่ในสภาพเสื่อมโทรม และถูกประกาศให้เป็นเขตอันตราย 2ปีมาแล้ว แต่ทว่าผู้พักอาศัยยังคงที่จะอาศัยอยู่ต่อในตึกแห่งนี้” อาวาสธีกล่าวต่อ
เอเอฟพีรายงานว่า ครอบครัวหนึ่งที่มีสมาชิก 5 คนได้รับการช่วยเหลือให้รอดชีวิตจากสุนัขดมกลิ่น ซึ่งทางแหล่งข่าวกู้ภัยเผยว่า ปฎิบัติการช่วยเหลือได้ยุติลงเมื่อสามารถติดตามพบทุกคนที่อาศัยในตึกแห่งนี้
เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ชาวอินเดียหลายล้านคนต้องอาศัยในตึกสภาพทรุดโทรม และโดยเฉพาะในหน้ามรสุมที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ จากสาเหตุที่ค่าครองชีพในมุมไบถูกจัดให้เป็นเมืองหนึ่งที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในเอเชีย และทำให้ประชาชนชาวอินเดียที่มีรายได้น้อยไม่สามารถจ่ายค่าเช่าในอัตราสูงเหล่านั้นได้ ทำให้จำยอมต้องถูกบังคับให้ต้องทนอาศัยในตึกเสื่อมโทรมต่างๆ
และบีบีซี สื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า พบว่าตึกไม่ต่ำกว่า 14,000 แห่งในมุมไบมีอายุอย่างน้อยร่วม 70 ปี และอีกทั้งในระหว่างปี 2008-2012 มีตึกที่เกิดถล่มถึง 100 แห่ง และทำให้มีผู้เสียชีวิต 53 คน และได้รับบาดเจ็บอีก 103 คน
