เอเจนซีส์ - เดลีเมล์ สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้ (2 ส.ค.) ถึงคำอ้างชาวเกาะลาเรอูว์นิยงของฝรั่งเศส มหาสมุทรอินเดีย เกี่ยวกับซากชิ้นส่วนไม่ว่าจะเป็นที่นั่งผู้โดยสาร หรือกระเป๋าเดินทาง ว่า ถูกพบสิ่งของเหล่านี้ครั้งแรกตั้งแต่พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ไม่มีใครคาดว่า อาจจะเป็นชิ้นส่วนมาจากเที่ยวบินล่องหนปริศนา MH370 ที่สูญหายร่วมปีครึ่ง แต่ออสเตรเลีย หัวหน้าติดตาม MH370 ไม่ยืนยัน อาจเป็นแค่ขยะทะเลที่เกยตื้น ให้ความสำคัญกับซากชิ้นส่วนเครื่องบินมากกว่า
เดลีเมล์ สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้ (2) ว่า ชาวเกาะลาเรอูว์นิยง จำนวน 2 คน อ้างกับสื่ออังกฤษว่า ได้สังเกตเห็น “กระเป๋าเดินทาง และที่นั่งผู้โดยสารของเครื่องบิน” ถูกซัดเกยบนชายหาดตั้งแต่พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ไม่มีใครคิดอะไรถึงสิ่งที่เห็นจนกระทั่งพบ “ชิ้นส่วนของปีกเครื่องบิน” ในวันพุธ (29 ก.ค.) จึงทำให้เชื่อว่า ชิ้นส่วนนี้น่าจะมาจากเที่ยงบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ที่ได้หายไปอย่างเป็นปริศนาซึ่งหนึ่งในสองของชาวบ้านบนเกาะภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส กล่าวว่า แต่ก่อนหน้านี้ เชื่อว่า สิ่งของที่พบเป็นเพียงขยะทะเลที่ลอยมาติดชายหาด แต่ทว่าในเวลานี้ชาวเกาะผู้นี้คิดว่าคงจะเป็นสิ่งของเครื่องใช้ของผู้โดยสารบนเครื่อง
นิโคลัส เฟอร์เออร์ (Nicolas Ferrier) ชาวเกาะที่มีอาชีพเก็บขยะ และนำไปเผาทำลายได้เปิดเผยกับเดลีเทเลกราฟ ซันเดย์ สื่ออังกฤษ ว่าเขาได้สังเกตเห็นที่นั่งสีฟ้า และกระเป๋าเดินทางจำนวนหนึ่งตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
“ผมเผาของพวกนั้นไปแล้ว” เฟอร์ริเออร์กล่าว และเสริมต่อว่า เขาได้เห็นส่วนของปีกครื่องบินบนฝั่งด้วยเช่นกัน
และเดลีเมล์รายงานว่า คำบอกเล่าของชายผู้นี้ยังสอดคล้องกับหญิงชาวเกาะลาเรอูว์นิยงอีกคนที่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อออนไลน์ท้องถิ่น Zinfos974 ว่า ลูกชายของเธอสังเกตเห็นปีกของเครื่องบินในขณะที่เดินเล่นตามชายหาด
อย่างไรก็ตาม จากภาพถ่ายระบุชี้ว่า ชิ้นส่วนปีกที่ค้นพบบนเกาะแห่งนี้มีหมายเลขชิ้นส่วน “657-BB” กำกับไว้ ซึ่งตรงกับชิ้นส่วนของเครื่องบินโบอิ้งตามเอกสารคู่มือของบริษัทโบอิ้งที่ออกมา
จากภาพถ่ายเศษชิ้นส่วนที่พบบนเกาะลาเรอูว์นิยง ปรากฏหมายเลขซึ่งน่าจะเป็นหมายเลขอะไหล่ชิ้นส่วนว่า “687BB”
“หมายเลขอะไหล่ชิ้นส่วนนี้ทำให้ยืนยันมั่นใจได้ว่ามันมาจากเครื่องบินโบอิ้ง 777 นี่เป็นข้อมูลที่ได้มาจากทางสายการบิน MAS” อับดุล อาซิส คาปราวี รัฐมนตรีช่วยกระทรวงขนส่งมาเลเซีย ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า เศษชิ้นส่วนความยาวราว 2 เมตรชิ้นนี้ ถูกขนส่งทางเครื่องบินจากเกาะลาเรอูว์นิยง ตั้งแต่คืนวันศุกร์ (31 ก.ค.) ขณะที่สำนักข่าวเอพีอ้างสำนักงานอัยการกรุงปารีส คาดหมายว่า เศษชิ้นส่วนนี้น่าจะไปถึงที่นั่นตอนเช้าวันเสาร์ (1)
เอพีรายงานต่อว่า เศษชิ้นส่วนนี้จะถูกส่งไปที่เมืองตูลูส ทางภาคใต้ของฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการบินและอวกาศของยุโรป ตามคำแถลงของกระทรวงกลาโหมฝรั่งเศส เศษชิ้นส่วนนี้จะได้รับการวิเคราะห์จากห้องแล็บพิเศษทางด้านกลาโหมแห่งต่างๆ ซึ่งออกแบบมาสำหรับการทดสอบและการวิเคราะห์เรื่องเครื่องบิน
นอกจากนี้ สื่ออังกฤษยังรายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากที่เจ้าหน้าที่มาเลเซียจะมุ่งหน้าเดินทางไปยังเกาะลาเรอูว์นิยง และไปยังฝรั่งเศสเพื่อติดตามเบาะแสความคืบหน้าแล้ว รัฐมนตรีคมนาคมมาเลเซีย ดาโต๊ะ ซรี เลียว ทิยงไล ยังให้ความเห็นว่า “หากชิ้นส่วนปีกนี้เป็นของ MH370 จริง ดังนั้น จะตรงกับเส้นทางการบินที่ได้เคยระบุไว้ว่า MH370 ปรากฏครั้งสุดท้ายเหนือน่านน้ำมหาสมุทรอินเดียใต้”
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องเกี่ยวกับสิ่งของอื่นๆ ที่ได้พบซึ่งคาดว่าจะมาจากผู้โดยสาร เดลีเมล์ชี้ว่า เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียที่เป็นศูนย์กลางปฏิบัติการค้นหา MH370 ไม่พยายามสรุปว่า ซากกระเป๋าเดินทางที่พบล่าสุดนี้ “อาจเป็นแค่ซากขยะกลางทะเล” หลังจากในวันพุธ (29) ที่ผ่านมา ทีมทำความสะอาดชายหาดบนเกาะลาเรอูว์นิยงที่นอกจากพบกับซากชิ้นส่วนเครื่องบิน ยังรวมไปถึงพบสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าเดินทางที่ขาดรุ่งริ่ง ขวดผงซักฟอกที่มีป้ายระบุเป็นภาษาอินโด และขวดน้ำแร่ที่มีฉลากภาษาจีนติด
โดยพวกเจ้าหน้าที่ออสเตรเลียไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการค้นพบส่วนของกระเป๋าเดินทาง ตลอดจนสิ่งของต่างๆ เท่าใดนัก โดยมองว่าอาจจะเป็นเพียงขยะเท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญจริงๆ คือเศษชิ้นส่วนของเครื่องบิน