เจ้าหน้าที่สั่งปิดชายหาดลา มิรองโดล เป็นระยะทางยาว 1 กิโลเมตรตั้งแต่เช้าวันเสาร์ (25 ก.ค.) เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ประท้วงเข้าไปในบริเวณดังกล่าว ก่อนที่พระราชาธิบดีซัลมาน จะเสด็จพระราชดำเนินถึงท่าอากาศยานเมืองนีซ พร้อมข้าราชบริพารในช่วงค่ำวันเดียวกัน ด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 747 ของสายการบินซาอุดี อาระเบียน แอร์ไลน์ส 2 ลำ และจากนั้นก็เสด็จด้วยรถยนต์พระที่นั่งต่อไปยังวิลล่าส่วนพระองค์ที่เมืองวัลลอริส ซึ่งอยู่ตรงชายฝั่งริเวียราส่วนที่เป็นของฝรั่งเศส โดยอยู่ระหว่างเมืองแอนทีบส์ กับ เมืองมาร์เซย์
ข้าราชบริพารที่ใกล้ชิดพระราชาธิบดีซัลมาน จะพักอยู่ที่วิลล่าของราชวงศ์ ส่วนข้าราชบริพารอื่นๆ อีก 700 คนจะพักในโรงแรมชั้นนำในเมืองคานส์
นอกจากนี้ ยังคาดว่าจะมีชาวซาอุดีฯ อีกหลายร้อยคนตามเสด็จกษัตริย์ซัลมาน โดยหลั่งไหลไปพักผ่อนท่องเที่ยวในย่านตากอากาศชื่อก้องทางใต้ของฝรั่งเศสแห่งนี้
มิเชล เชวิลญอง ประธานสมาคมผู้จัดการโรงแรมในเมืองคานส์ ให้สัมภาษณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า นี่คือข่าวดีอย่างยิ่ง เนื่องจากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูงมาก และผู้ที่จะได้ประโยชน์ไม่ได้มีเพียงโรงแรมหรูเท่านั้น แต่ยังรวมถึงภาคค้าปลีกและท่องเที่ยวของเมืองด้วย
อย่างไรก็ดี ใช่ว่า ทุกคนยินดีกับข่าวนี้
ในฝรั่งเศสปกติแล้ว ประชาชนจะสามารถเข้าถึงชายหาดซึ่งถือเป็นพื้นที่ของรัฐได้อย่างเสรี ทว่าบ่อยครั้งก็เกิดสถานการณ์ตึงเครียด เมื่อเมืองบางแห่งประกาศปิดหาดบางช่วง ด้วยการให้สัมปทานแก่บริษัทให้บริการเช่าร่มและเตียงอาบแดด
จนถึงวันเสาร์ มีประชาชนกว่า 100,000 คนแล้วที่เข้าร่วมลงชื่อคัดค้านการปิดหาดช่วงหน้าวิลล่าของกษัตริย์ซาอุดีฯ โดยหนังสือประท้วงระบุว่า บริเวณดังกล่าวถือเป็นพื้นที่ตามธรรมชาติเช่นเดียวกับสถานที่สาธารณะอื่นๆ จึงควรเปิดให้ผู้พำนัก นักท่องเที่ยว ประชาชนฝรั่งเศส รวมถึงคนต่างชาติผ่านไปมาได้ ไม่ควร “ทำให้เกิดการครอบครองเป็นส่วนตัว” เช่นนี้
“เราเรียกร้องให้รัฐรับประกันหลักการพื้นฐานว่าด้วยความเท่าเทียมของพลเมืองทั้งหมด”
นอกจากปิดหาดแล้ว ทางการยังมีคำสั่งห้ามเข้าใกล้วิลล่าของกษัตริย์ซาอุดีฯ จากทางทะเลเกิน 300 เมตร โดยมีผลตั้งแต่วันเสาร์
ความไม่พอใจของผู้คนดูจะเพิ่มขึ้นอีก จากการเทปูนซีเมนต์ปรับพื้นบริเวณชายหาดโดยพลการ เพื่อสร้างลิฟต์จากชายหาดขึ้นไปยังวิลลาของพระราชาธิบดีซัลมาน แม้เจ้าหน้าที่ของซาอุดีอาระเบียยืนยันจะทุบทำลายลิฟต์ดังกล่าวเมื่อพระองค์เสด็จกลับประเทศก็ตาม
มิเชล ซารุกกี นายกเทศมนตรีวาลอริส ทำหนังสือส่งถึงประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ เพื่อประท้วงเรื่องการเทปูนสร้างลิฟต์
“เราเข้าใจถึงเหตุผลในเรื่องความปลอดภัยและในเรื่องผลประโยชน์ที่ใหญ่กว่าของประเทศชาติ แต่ไม่ควรมีใครสามารถรอดพ้นความผิดภายใต้หลักการพื้นฐานของกระบวนการทางกฎหมายไปได้”
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า คนงานยังพยายามสร้างรั้วเพื่อปิดทางเข้าออกชายหาดช่วงนี้ ระหว่างที่พระราชาธิบดีซัลมานประทับอยู่ซึ่งคาดว่าประมาณ 3 สัปดาห์ ทว่า ถูกเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นขัดขวางจนต้องยอมรื้อออก นอกจากนั้น ทางเดินทำด้วยโลหะที่ถูกตอกตรึงกับหน้าผาหินซึ่งเป็นที่ตั้งของวิลลาส่วนพระองค์ ก็ถูกเจ้าหน้าที่สั่งรื้อถอนเช่นเดียวกัน