เอเอฟพี – เกิดเหตุระเบิด 2 ครั้งในเมืองจอสทางตอนกลางของไนจีเรีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 44 คน ตำรวจระบุในวันนี้ (6) หลังจากกลุ่มติดอาวุธโบโกฮารัมก่อเหตุโจมตีนองเลือดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
“ในตอนนี้เราทราบว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 44 ราย และบาดเจ็บอีก 47 รายในพื้นที่เกิดเหตุของทั้งสองการโจมตี” โมฮัมหมัด อับดุลซาลัม เจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ (NEMA) กล่าว
ก่อนหน้านี้ตำรวจรัฐแพลโทกล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 รายในการระเบิดดังกล่าว ซึ่งครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อเวลา 9.14 น. ตามเวลาท้องถิ่น (03.14 น. ตามเวลาประเทศไทย) ที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่งใกล้กับสถานีรถบัสและมหาวิทยาลัยจอส ส่วนครั้งที่สองเกิดขึ้น 4 นาทีหลังจากนั้นใกล้กับมัสยิดแห่งหนึ่งที่มีคนยู่เนืองแน่น
ในตอนนี้ยังไม่มีกลุ่มใดอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุโจมตีดังกล่าว แต่จอส เมืองเอกของรัฐแพลโทที่มีการแบ่งแยกพื้นที่ทางศาสนา เคยตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มติดอาวุธโบโกฮารัมมาแล้วก่อนหน้านี้
รัฐแพลโท ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเส้นแบ่งระหว่างภาคใต้ของไนจีเรียที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวคริสต์กับภาคเหนือที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ก็เคยมีเหตุความรุนแรงระหว่างศาสนาเกิดขึ้นหลายระลอก ซึ่งคร่าชีวิตคนไปหลายพันตลอด 10 ปีที่ผ่านมา
กลุ่มโบโกฮารัมก่อเหตุโจมตีในภาคเหนือของไนเจีเรียหนักขึ้นนับตั้งแต่พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดี มูฮัมมาดู บูฮารี เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ทั้งการบุกโจมตี , การวางระเบิด และการระเบิดฆ่าตัวตาย เมื่อรวมการโจมตีครั้งล่าสุดนี้แล้ว ผู้ที่ถูกสังหารนับได้เกือบ 500 คน ทั้งนี้อ้างจากรายงานของเอเอฟพี
เมื่อวันอาทิตย์ (5) มือระเบิดฆ่าตัวตายรายหนึ่งจุดชนวนระเบิดตัวเองภายในโบสถ์แห่งหนึ่งในเมืองโปติสคุมของรัฐโยเบทางตอนเหนือของไนจีเรีย สังหารผู้เข้าร่วมสวดมนต์ไป 5 ราย
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นักรบกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ได้บุกจู่โจมหมู่บ้านหลายแห่งรอบเขตทะเลสาบชาด (Lake Chad) สังหารผู้เข้าร่วมสวมมนต์ในมัสยิดแห่งต่างๆ ไปกว่า 150 ราย